PrivateVPN มีการดำเนินงานภายใต้กฎหมายสวีเดนและเป็นผู้ให้บริการการเชื่อมต่อ VPN และบริการพร็อกซี่ HTTP เซิฟเวอร์ของพวกเขาได้รับการตั้งค่ามาเพื่อให้รองรับ OpenVPN, L2TP, PPTP, IPSec, IKEv2, HTTP Proxy และโปรโตคอล SOCKS5 พวกเขามีเซิฟเวอร์อยู่ในออสเตรีย, สวีเดน, สวิสเซอร์แลนด์, สหรัฐอเมริกา, อังกฤษ, เดนมาร์ค, ฝรั่งเศส, ลักเซมเบิร์ก, นอร์เวย์, ฟินแลนด์, โรมาเนีย, เยอรมนี, รัสเซีย, เนเธอร์แลนด์, สิงคโปร์, แคนาดา, ออสเตรเลีย, อิตาลี, สเปน, โปแลนด์ และยูเครน คุณสามารถเลือก IP address แบบที่มีการเปลี่ยนอยู่เสมอ หรือใช้แบบแชร์ร่วมกันก็ได้ตามที่คุณต้องการ นอกจากการที่มีการป้องกันการรั่วไหล IPv6, การเข้ารหัส 2048-bit และ AES-256, และ kill switch การปกป้องและความเป็นส่วนตัวของคุณจะได้รับการรับประกัน นอกจากนี้คุณยังสามารถทำการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้พร้อมกันสูงสุด 10 เครื่องสำหรับแต่ละบัญชีผู้ใช้
เพื่อให้เป็นไปตามชื่อของพวกเขา PrivateVPN ไม่มีการเก็บบันทึกข้อมูลทราฟฟิกใด ๆ บนเซิฟเวอร์ของพวกเขา ซึ่งรวมถึงเซิฟเวอร์ที่อยู่ในสหรัฐอเมริกาด้วย ข้อมูลเพียงอย่างเดียวที่มีการเก็บเอาไว้คือ ชื่อผู้ใช้, รหัสผ่าน, และที่อยู่อีเมลที่คุณใช้ในการลงทะเบียน ดังนั้นจึงไม่มีทางที่จะมีใครสามารถเอาข้อมูลส่วนบุคคลของคุณจากเซิฟเวอร์ของ PrivateVPN ไปได้
ผู้ให้บริการรายนี้อนุญาตให้มีทราฟฟิก Torrent ได้ในทุกเซิฟเวอร์ แต่คุณควรใช้เซิฟเวอร์ที่อยู่ในสวีเดนเท่านั้น เนื่องจากนี่เป็นประเทศที่เป็นมิตรต่อความเป็นส่วนตัว PrivateVPN จะทำการเชื่อมต่อเซิฟเวอร์ของพวกเขาไปยังแกนอินเตอร์เน็ตหลักที่มีอยู่ในแต่ละประเทศ โดยมีบางส่วนที่ถูกเชื่อมต่อไปยังผู้ให้บริการ Tier1 IP โดยตรง ซึ่งมีความเร็วที่สูงขึ้น นอกจากนี้ยังรองรับ Port forwarding อีกด้วย แต่คุณจะต้องลองดูที่ลิสต์ของเซิฟเวอร์เพื่อหาตัวที่คุณต้องการ จากสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้พวกเขายังไม่มีการจำกัดความเร็วหรือการสลับเซิฟเวอร์อีกด้วย ดังนั้นคุณจึงสามารถเปลี่ยนเซิฟเวอร์และโปรโตคอลได้บ่อยตามที่คุณต้องการ เราพบว่าสิ่งนี้มีประโยชน์เป็นอย่างมากเนื่องจากตำแหน่งเดิมที่ตั้งไว้และโปรโตคอลตัวเดิมทำให้การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตช้าลงอย่างเห็นได้ชัด
ด้วยการใช้บริการของ PrivateVPN คุณจะสามารถปลดบล็อกเว็บไซต์ที่ได้ถูกกรองโดย firewalls หรือถูกจำกัดไว้ในเฉพาะบางพื้นที่ นอกจากนี้บริการของพวกเขายังสามารถใช้งานได้ดีกับ Netflix, Amazon Video และ Hulu แต่คุณจะต้องใช้เวลาส่วนหนึ่งในการหาเซิฟเวอร์ที่ดีที่สุดและโปรโตคอลที่เหมาะสมที่สุด เพื่อคงความเร็วในการสตรีมบริการต่าง ๆ เหล่านี้เอาไว้
ในปัจจุบัน PrivateVPN มีแอพสำหรับ Windows, iOS, OS X และ Android โดยที่มีการช่วยเหลือผ่านทางแชทหรือแบบฟอร์มทางเว็บ อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่ได้ให้บริการแชทตลอดเวลา และคุณจะถูกจัดไว้ในคิวเมื่อไม่มีใครที่จะคอยตอบคำถามในขณะนั้น นอกจากนี้ PrivateVPN ยังมีบริการติดตั้งแบบรีโมท ซึ่งมีความโดดเด่นกว่าคู่แข่ง ช่างผู้ให้บริการของพวกเขาได้จัดสรรเวลาเพื่อติดตั้ง VPN client ให้กับคุณผ่านทางซอฟต์แวร์ TeamViewer คุณยังสามารถรับการช่วยเหลือผ่านทางไกลได้เช่นกัน บริการนี้สามารถใช้งานได้บนระบบปฏิบัติการ: Mac, Windows, และ Linux, และโปรโตคอล VPN ดังต่อไปนี้: PPTP, OpenVPN, หรือ L2TP ถ้าหากคุณไม่ต้องการรับการช่วยเหลือผ่านทางไกล คุณสามารถดูที่คู่มือแนะนำที่มีอยู่บนเว็บไซต์ PrivateVPN ได้สำหรับแต่ละแพลตฟอร์มที่ PrivateVPN มีการดำเนินงานอยู่
PrivateVPN รับการชำระเงินผ่านทางบัตรเครดิต, PayPal, Payson, BitCoin และ 2Checkout คุณสามารถมีรหัสของขวัญที่ให้คุณสามารถใช้บริการได้ 24 ชั่วโมงเพื่อลองใช้งานก่อนที่จะใช้งานจริง โดยคุณจะสามารถใช้บริการได้เต็มรูปแบบหลังจากที่คุณได้ทำการลงทะเบียนบัญชีใหม่แล้ว
ฟีเจอร์ PrivateVPN — อัปเดตเมื่อ 2023
9.6
💸
ราคา
|
2 USD/เดือน
|
📆
รับประกันคืนเงิน
|
30 วัน |
📝
VPN มีการบันทึกข้อมูลการใช้งานหรือไม่ง
|
ไม่ |
🖥
จำนวนเซิร์ฟเวอร์
|
200+ |
💻
จำนวนอุปกรณ์ที่อนุญาตให้เชื่อมต่อ
|
10 |
🛡
ปุ่มยกเลิกการเชื่อมต่อ
|
ใช่ |
🗺
ในประเทศ
|
Sweden |
📥
สนับสนุนการทอร์เรนต์
|
ใช่ |
แอปและการติดตั้ง
8.8
ถึงแม้ว่าคุณจะสามารถติดตั้ง VPN นี้ผ่านทางไกลโดยใช้ TeamViewer ได้ แต่จากประสบการณ์ของเราพบว่าสิ่งนี้ไม่ค่อยมีความจำเป็นเท่าใดนัก ในการเริ่มต้นกระบวนการตั้งค่าคุณเพียงแค่ไปที่เว็บไซต์ เลือกระยะเวลาของแพลนที่คุณต้องการ กรอกอีเมลและเลือกรหัสผ่าน หลังจากที่คุณเสร็จสิ้นขั้นตอนนี้ คุณจะได้เลือกวิธีการชำระเงินและทำตามคำแนะนำในการชำระเงิน แล้วคุณจะได้เลือกแพลตฟอร์มของคุณ เราได้ทำการตั้งค่า PrivatePVN บนเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราที่ใช้ Windows 10 คลิกเพื่อเปิดคู่มือสำหรับแพลตฟอร์มของคุณ แล้วคุณจะพบกับลิงก์ภายในคู่มือนี้ ให้คลิกไปที่ลิงก์และทำตามคำแนะนำเพื่อติดตั้ง หลังจากนั้นคุณจะต้องรีสตาร์ทอุปกรณ์ของคุณ (อย่างน้อยสำหรับการติดตั้ง Windows 10) เมื่อรีสตาร์ทเสร็จแล้วให้คลิกไปที่ไอคอน PrivateVPN ที่อยู่บนเครื่องเดสท็อปของคุณ และให้ทำการล็อกอินเพื่อทำการเชื่อมต่อโดยใช้การตั้งค่าเริ่มต้น หรือคุณสามารถคลิกไปที่ปุ่ม advance เพื่อดูการตั้งค่าที่อยู่ในโปรโตคอล, การเชื่อมต่อเองแบบอัตโนมัติ และ kill switch ของคุณ โปรดอย่าลืมตัดการเชื่อมต่อ VPN ของคุณก่อนที่จะทำการเปลี่ยนแปลงใด ๆ และทำการเชื่อมต่อใหม่อีกครั้งหลังจากนั้น
ราคา
9.2
12 เดือน + 24 ฟรีอีกหนึ่งเดือน
PrivateVPN มีแพ็คเกจให้เลือก 3 แบบ ที่แตกต่างกันเพียงแค่ระยะเวลา แพ็คเกจโดยส่วนใหญ่ ยิ่งระยะเวลาความเป็นสมาชิกมากเท่าใด ราคายิ่งถูกมากขึ้นเท่านั้น นอกจากนี้คุณยังสามารถทดลองใช้บริการได้ฟรี 24 ชั่วโมง และมีการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน PrivateVPN มีโปรโมชั่นพิเศษอยู่เสมอ และมีส่วนลดสำหรับแพ็คเกจต่าง ๆ ซึ่งมีราคาที่เหมาะสมและสามารถปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของคุณได้เป็นอย่างดี
ความเสถียร & การช่วยเหลือ
9.2
PrivateVPN ได้กล่าวว่าพวกเขามีอัพไทม์ 99.98% และจากที่ผมได้ทดลองใช้งาน VPN นี้ ผมสามารถพูดได้ว่ามันค่อนข้างเป็นจริง ช่วงเวลาเดียวที่บริการนี้ไม่สามารถใช้งานได้คือหลังจากที่เครื่องคอมพิวเตอร์ได้ถูกปล่อยทิ้งไว้นิ่ง ๆ ช่วงระยะเวลาหนึ่ง และ kill switch ได้เริ่มทำงานโดยทันทีเพื่อตัดสัญญาณอินเตอร์เน็ตจนกว่าที่ผมจะทำการเชื่อมต่อ VPN ใหม่อีกครั้ง ในด้านความช่วยเหลือ ผมได้พยายามลองตัวเลือกแชทเพื่อถามคำถาม แต่พวกเขาก็ไม่ได้ให้บริการในขณะนั้น ผมสามารถทิ้งข้อความเพื่อถามคำถามและรับคำตอบกลับมาได้ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง การตอบกลับนั้นค่อนข้างเป็นประโยชน์และสามารถชี้นำไปในทิศทางที่ต้องการได้ แต่ผมยังไม่ได้ลองการช่วยเหลือผ่านทางไกลด้วย TeamViewer เนื่องจากข้อมูลที่แสดงอยู่บนเว็บไซต์นั้นเพียงพอที่ให้ผมสามารถแก้ปัญหาที่พบเจอได้
รับชมวิดีโอรีวิวสั้น ๆ และวิดีโอแนะนำของ PrivateVPN ได้ที่ด้านล่าง
พวกเราจัดอันดับผู้ให้บริการตามการทดสอบและค้นคว้าอย่างเข้มงวด แต่ก็จะมีการคำนึงถึงความคิดเห็นของคุณและข้อตกลงเชิงพาณิชย์ของเรากับผู้ให้บริการด้วย หน้านี้มีลิงก์ affiliate