วิธีเข้า Dark Web อย่างปลอดภัย (2023)
- คู่มือแบบเร็ว: วิธีเข้าถึง Dark Web อย่างปลอดภัย จากประเทศไทย ใน 3 ขั้นตอนง่าย ๆ
- Dark Web คืออะไร?
- Dark Web นั้นผิดกฎหมายหรือไม่?
- ฉันสามารถทำอะไรบน Dark Web ได้บ้าง?
- อันตรายเกี่ยวกับ Dark Web ที่คุณควรรู้
- คู่มือแบบทีละขั้น: วิธีการเข้าถึง Dark Web อย่างปลอดภัย จากประเทศ
- VPN ที่ดีที่สุดสำหรับใช้เข้า Dark Web อย่างปลอดภัย จากประเทศไทย ในปี 2023
- ExpressVPN — VPN สำหรับ Dark Web ที่ดีที่สุด มีการป้องกันเรื่องความเป็นส่วนตัวอันแข็งแกร่ง และมีความเร็วอันน่าประทับใจ
- CyberGhost — เซิร์ฟเวอร์ NoSpy สำหรับปิดบังกิจกรรมออนไลน์ของคุณ ในประเทศไทย หรือจากที่ใดก็ได้
- Private Internet Access — ฟีเจอร์ MACE ที่จะปกป้องคุณจากโฆษณาและมัลแวร์บน Dark Web
- เคล็ดลับเพิ่มเติมในการใช้งาน Dark Web อย่างปลอดภัย
- คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเข้า Dark Web อย่างปลอดภัย
- ปกป้องความเป็นส่วนตัวบน Dark Web วันนี้เลย
Dark web นั้นเป็นส่วนที่อันตรายที่สุดและสร้างความขัดแย้งมากที่สุดบนอินเทอร์เน็ต — และมันก็จะสามารถถูกเข้าถึงได้ผ่านเฉพาะบางเบราว์เซอร์ อย่างเช่น Tor มันมักจะถูกมองว่าเป็นสถานที่ที่ไม่ดีซึ่งอาชญากรใช้ในการสื่อสารกันนอกสายตาของกฎหมาย ถึงแม้ว่านั่นจะเป็นความจริงบางส่วน แต่ก็ยังมีอีกหลายเหตุผลดี ๆ ที่ทำให้คุณอยากเข้าถึง dark web
ประโยชน์หลัก ๆ ของการใช้ dark web ก็คือการไม่เปิดเผยตัวตน อย่างไรก็ตาม มันจะเป็นแบบนั้นเฉพาะกับเครือข่ายเท่านั้น — ISP ของคุณ (เป็นต้น) จะสามารถรู้ได้ว่าคุณกำลังเข้าถึงมัน และพวกเขาก็อาจจะรายงานให้เจ้าหน้าที่ทราบ ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ได้ทำอะไรที่ผิดกฎหมายก็ตาม
VPN นั้นจะช่วยปกป้องความเป็นส่วนตัวบนโลกออนไลน์ของคุณด้วยการเข้ารหัสทราฟฟิคอินเทอร์เน็ตและเปลี่ยนเส้นทางมันไปยังเซิร์ฟเวอร์ส่วนตัว นี่จะช่วยปิดบังข้อมูลส่วนตัวของคุณจากบุคคลที่สาม, แฮ็กเกอร์, ตัวติดตาม และภัยอันตรายไซเบอร์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเข้าถึง dark web
สำหรับความปลอดภัยขั้นสูงสุด เราแนะนำให้เลือกใช้ ExpressVPN มันมีนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลที่เข้มงวด และก็เลือกใช้การเข้ารหัสระดับทหารเพื่อช่วยรักษาสถานะการไม่เปิดเผยตัวตนของคุณ คุณยังสามารถ ทดลองใช้ ExpressVPN ได้อย่างไม่มีความเสี่ยง เพราะว่ามันมีการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน — ถ้าคุณลองใช้แล้วรู้สึกว่ามันไม่เหมาะกับคุณ คุณก็สามารถขอคืนเงินได้เต็มจำนวน
ทดลองใช้ ExpressVPN อย่างไม่มีความเสี่ยงได้เลย
คู่มือแบบเร็ว: วิธีเข้าถึง Dark Web อย่างปลอดภัย จากประเทศไทย ใน 3 ขั้นตอนง่าย ๆ
- รับบริการจาก VPN เราแนะนำ ExpressVPN เพราะว่ามันมีความปลอดภัยสูง ความเร็วสูง และก็มีฟีเจอร์ความเป็นส่วนตัวมากมายที่จะช่วยรักษาสถานะการไม่เปิดเผยตัวตนของคุณบน dark web
- ดาวน์โหลด Tor เข้าไปยัง หน้าดาวน์โหลดของ Tor และเลือกอุปกรณ์ของคุณ คุณจะมีตัวเลือกในการกำหนดค่าของมัน หรือคุณจะทำการเชื่อมต่อในทันทีเลยก็ได้
- ท่อง dark web ได้เลย! เชื่อมต่อ VPN ของคุณก่อนที่จะทำการเปิด Tor เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะท่องเว็บได้อย่างปลอดภัยที่สุด
Dark Web คืออะไร?
Dark web นั้นเป็นชั้นที่ 3 ของอินเทอร์เน็ตต่อจาก surface web และ deep web ต่อไปนี้จะเป็นคำอธิบายเกี่ยวกับสิ่งที่คุณจะพบเจอในแต่ละชั้น:
Surface Web
Surface web — หรือ clean web — เป็นส่วนหนึ่งของอินเทอร์เน็ตที่คุณสามารถเข้าถึงได้ทุกเวลาผ่านการใช้เบราว์เซอร์ยอดนิยมทั่วไป (เช่น Chrome, Firefox, Safari, อื่น ๆ) รวมถึงเพจต่าง ๆ ที่คุณสามารถเข้าถึงผ่านการค้นหาบน Google ด้วย คุณจะมองเห็นเฉพาะข้อมูลที่แอดมินของเว็บไซต์ต้องการให้คุณเห็น และก็จะไม่สามารถเข้าถึงไฟล์ backend, หน้าบัญชี, หรือ archives ได้
Deep Web
deep web นั้นจะเป็นชั้นที่มีความเป็นส่วนตัว และมักจะต้องใช้รหัสในการเข้า มันเป็นส่วนที่ใหญ่ที่สุดของเว็บไซต์ทั้งหมด ถือเป็นจำนวน 96% ของทั้งอินเทอร์เน็ต Deep web นั้นจะไม่สามารถถูกเข้าถึงได้จากการค้นหาโดยทั่วไป เนื่องจาก search engine จะไม่ได้ทำการ index มันเอาไว้ — มันเป็นชั้นของอินเทอร์เน็ตที่จะสามารถเข้าถึงได้โดยคนที่มีลิงก์เฉพาะหรือสามารถล็อกอินเข้าไปดูได้เท่านั้น
dark web กับ deep web นั้นไม่เหมือนกัน แต่คนส่วนใหญ่มักจะใช้สองคำนี้แทนกัน
Dark Web
Dark web นั้นเป็นชั้นที่สามของอินเทอร์เน็ต และเป็นชั้นที่ค้นหาได้ยากที่สุด มันประกอบไปด้วยเว็บไซต์ที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ด้วยเบราว์เซอร์ทั่วไป นอกจากนี้มันยังใช้โครงสร้าง URL ที่แตกต่างจากเว็บไซต์แบบ surface และ deep web ด้วย เว็บไซต์บน dark web นั้นจะมีสตริงของตัวอักษรและตัวเลขแบบสุ่มที่จะลงท้ายด้วย.onion แทน.com ในขณะที่ surface และ deep web นั้นสามารถถูกเข้าถึงได้ด้วยเบราว์เซอร์ทั่วไป ถ้าเป็นเว็บไซต์.onion นั้น คุณจะต้องใช้ซอฟต์แวร์พิเศษในการเข้าถึง Tor นั้นเป็นเบราว์เซอร์ที่ถูกใช้เข้าถึง dark web อย่างแพร่หลายมากที่สุด; อย่างไรก็ตาม เครือข่ายอื่น ๆ ประกอบไปด้วย Freenet, Riffle และ I2P คุณจะสามารถพบเจอได้ทั้งเว็บไซต์/กิจกรรมที่ถูกกฎหมายและผิดกฎหมายบน dark web เนื่องจากมันไม่มีการกำกับดูแลใด ๆ ทั้งสิ้น
ใช้งานอย่างปลอดภัยด้วย ExpressVPN
Dark Web นั้นผิดกฎหมายหรือไม่?
Dark web นั้นเป็นเรื่องที่ถูกกฎหมายในประเทศส่วนใหญ่ ตราบใดก็ตามที่คุณไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องผิดกฎหมาย คุณก็คงจะไม่ต้องเจอกับปัญหาใด ๆ อย่างไรก็ตาม ในประเทศที่มีการเซ็นเซอร์อย่างเข้มงวด (เช่นจีนหรือสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) การเข้าถึง dark web นั้นเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย — เราแนะนำอย่างยิ่งให้คุณทำตามกฎหมายในประเทศของคุณ เพื่อหลีกเลี่ยงถึงผลทางกฎหมายที่จะตามมาในภายหลัง
ถึงแม้ว่าการเข้า dark web ในประเทศที่คุณอยู่อาศัยหรือเดินทางไปนั้นจะเป็นเรื่องถูกกฎหมาย แต่คุณก็อาจจะถูกจัดเข้าไปในกลุ่มเฝ้าระวังเพียงเพราะว่าคุณใช้เบราว์เซอร์ dark web อย่าง Tor ได้ เจ้าหน้าที่นั้นจะใช้ dark web เป็นเครื่องมือในการจับตัวอาชญากรที่กระทำเรื่องผิดกฎหมาย อย่างเช่นการค้ามนุษย์, ยา หรืออาวุธ และอีกมากมาย มีกิจกรรมถูกกฎหมายมากมายที่คุณสามารถเข้าถึงได้ด้วยการใช้ dark web เราแนะนำให้คุณเข้าชมเฉพาะเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ และช่วยป้องกันตัวเองด้วยมาตรการด้านความปลอดภัยเพิ่มเติม
ฉันสามารถทำอะไรบน Dark Web ได้บ้าง?
มีกิจกรรมและทรัพยากรที่เป็นประโยชน์มากมายบน dark web แต่ยังไงก็ตาม การรักษาสถานะการไม่เปิดเผยตัวตนก็ยังคงเป็นเรื่องสำคัญ การใช้ Tor อย่างไม่มีการป้องกันนั้นจะทำให้คุณต้องเผชิญกับภัยอันตรายไซเบอร์มากมาย อย่างเช่นแฮ็กเกอร์, ตัวติดตาม และมัลแวร์ อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณเข้าใช้งาน dark web อย่างปลอดภัย มันก็จะมีข้อดีต่าง ๆ มากมาย เช่น:
- เสรีภาพในการพูด
- การเปิดโปงอาชญากรหรือบุคคลสาธารณะที่ทุจริต
- ซื้อผลิตภัณฑ์ได้ในราคาถูกกว่า
- เนื้อหาเกี่ยวกับการวิจัย
- สื่อสารได้อย่างไม่เปิดเผยตัวตน
- รับคำแนะนำทางการแพทย์
ก่อนที่จะเข้าไปกระทำการใด ๆ กับ dark web เราขอแนะนำให้ทำการค้นคว้าเกี่ยวกับเว็บไซต์ล่วงหน้า — ใช้เบราว์เซอร์ทั่วไปของคุณในการค้นหาทางออนไลน์ว่าเว็บไซต์นั้นมีความน่าเชื่อถือหรือไม่ มีข้อมูลอยู่บนโลกออนไลน์มากมายที่ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยอย่าง ExpressVPN ซึ่งได้แนะนำเกี่ยวกับลิงก์.onion ที่มีความน่าเชื่อถือ
ใช้งานอย่างปลอดภัยด้วย ExpressVPN
อันตรายเกี่ยวกับ Dark Web ที่คุณควรรู้
เนื่องจากไม่มีการกำกับดูแล dark web นั่นแปลว่าคุณเองก็อาจจะตกเป็นเป้าของภัยอันตรายทางไซเบอร์ได้ในทุก ๆ ครั้งที่คุณเข้าชม คุณสามารถหลีกเลี่ยงภัยอันตรายเหล่านี้ได้อย่างง่ายดายถ้าคุณมีความเข้าใจและรู้วิธีปกป้องตัวเองจากมัน
ภัยอันตรายที่พบเห็นได้บ่อยที่สุดประกอบไปด้วย:
อาจติดมัลแวร์
การท่อง dark web นั้นทำให้คุณมีความเสี่ยงจากการโจมตีทางไซเบอร์ เช่น DDoS attacks, botnets และมัลแวร์หรือไวรัสอื่น ๆ เพียงแค่กรอก URL ผิดหรือดาวน์โหลดไฟล์อันตรายโดยไม่ได้ตั้งใจ มันก็อาจทำให้เครื่องของคุณติดไวรัสหรือมัลแวร์ได้ มันจะส่งผลเสียต่อเครื่องของคุณ หรือเลวร้ายกว่านั้น ข้อมูลส่วนตัวของคุณก็อาจจะรั่วไหลออกไป
เพื่อป้องกันภัยอันตรายในรูปแบบนี้ เราแนะนำให้เข้า dark web อย่างมีเป้าหมายในใจ — สืบค้นเกี่ยวกับเว็บไซต์ล่วงหน้า และก็จัดทำรายการของลิงก์ที่คุณเชื่อถือได้เอาไว้
กิจกรรมอันตราย
Dark web นั้นเป็นเหมือนที่อาศัยของอาชญากรรมต่าง ๆ — ไม่ว่าจะเป็นการใช้เอกสารปลอมหรือเอกสารที่ถูกขโมย ไปจนกระทั่งการค้ายาและอาวุธ ยิ่งไปกว่านั้นมันยังเป็นเครือข่ายสำหรับจ้างมือสังหารอึีก, สื่อลามกเด็ก และไลฟ์สตรีมการฆาตกรรมอีกด้วย หากคุณบังเอิญเข้าไปยังเพจพวกนั้นโดยไม่ได้ตั้งใจ คุณอาจจะเจอผลที่ตามมาทางกฎหมายในประเทศไทยได้ หากมีคนรู้เข้า
เพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์อันยุ่งเหยิงหรือผิดกฎหมาย เราแนะนำไม่ให้คุณเข้าเว็บ darknet ก่อนที่จะทำการสืบค้นเกี่ยวกับมันชัดเจนเสียก่อน
เว็บไซต์หลอกลวง
แฮ็กเกอร์บน dark web นั้นสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของคุณได้อย่างง่ายดาย ด้วยการใช้โทรจัน, ฟิชชิง และเว็บไซต์หรือโปรแกรมหลอกลวงประเภทอื่น ๆ บางครั้งแค่คลิกผิดนิดเดียว ข้อมูลของคุณทั้งหมดที่คุณเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ก็สามารถรั่วไหลออกไปได้ ที่แย่ไปกว่านั้น — อาชญากรไซเบอร์นั้นก็ชอบที่จะเปิดใช้งานกล้องและไมโครโฟนบนคอมพิวเตอร์เพื่อไลฟ์สตรีมจากเหยื่อที่ไม่ทันระวังตัวอีกด้วย
URL ส่วนใหญ่บน dark web นั้นจะมีชื่อที่จดจำไม่ได้ ดังนั้นคุณจึงสามารถติดกับดักแบบนี้ได้อย่างง่ายดาย — และก็จะทำให้ไฟล์ส่วนตัว, ข้อมูลทางการเงิน, คีย์การพิมพ์ และข้อมูลอื่น ๆ ต้องตกอยู่ในอันตราย เราแนะนำให้ใช้ VPN ตอนที่ทำการท่องเว็บอยู่ตลอด เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลของคุณรั่วไหล
การเฝ้าระวัง
เพื่อเป็นการหยุดกลุ่มอาชญากรไม่ให้ดำเนินการบน dark web เจ้าหน้าที่ก็จะสร้างเว็บปลอมเพื่อติดตามอาชญากรรม ด้วยวิธีนี้ พวกเขาจึงสามารถดูได้ว่าใครมาเข้าเว็บของพวกเขาบ้าง — และนี่ก็รวมถึงตัวคุณด้วย ถ้าคุณบังเอิญไปเข้าเว็บไซต์นั้น ในบางประเทศนั้น เพียงแค่คุณใช้ Tor ก็อาจจะทำให้คุณถูกจัดกลุ่มโดยองค์กรเหล่านี้ได้แล้ว ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ได้ทำกิจกรรมผิดกฎหมายก็ตาม
ขอให้จำเอาไว้ว่า Tor นั้นเป็นผลิตภัณฑ์ของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ดังนั้นการเฝ้าระวังของรัฐบาลก็มีความเป็นไปได้เช่นกัน วิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันไม่ให้เจ้าหน้าที่ทราบถึงกิจกรรมการท่องเว็บของคุณก็คือ การหลีกเลี่ยงเว็บไซต์ที่มีเรื่องผิดกฎหมาย — ถึงได้ย้ำอยู่บ่อยครั้งว่าคุณควรจะเข้าเฉพาะเว็บไซต์ที่คุณสืบค้นมาแล้วและมีความเชื่อใจ
คู่มือแบบทีละขั้น: วิธีการเข้าถึง Dark Web อย่างปลอดภัย จากประเทศ
เพื่อเหตุผลด้านความปลอดภัย เราอยากจะแนะนำให้คุณติดตั้ง Tor จากเว็บไซต์ทางการเท่านั้น และเราก็แนะนำไม่ให้เปลี่ยนขนาดหน้าต่างของคุณระหว่างการท่องเว็บ — มันจะเป็นการสร้างลายนิ้วมือของเบราว์เซอร์ ซึ่งเป็นวิธีที่แฮ็กเกอร์สามารถใช้งานเพื่อเก็บข้อมูลเฉพาะบางอย่างเกี่ยวกับคุณได้ อ่าน คู่มือ Tor สำหรับมือใหม่นี้ ก่อนจะทำการเข้า dark web
วิธีการดาวน์โหลด Tor สำหรับ Windows
- รับบริการจาก VPN ที่เราอยากแนะนำอันดับแรกเลยก็คือ ExpressVPN มันมีการเข้ารหัสระดับทหารและ kill switch อัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนตัวของคุณไม่รั่วไหล
- เชื่อมต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์ใดก็ได้ เซิร์ฟเวอร์ในประเทศนั้นจะให้การเชื่อมต่อที่เร็วที่สุด
- ดาวน์โหลด Tor เข้าไปยัง หน้าดาวน์โหลดของมัน และเลือกตัวติดตั้งสำหรับ Windows
- เปิดไฟล์ติดตั้ง เลือกภาษาและก็ทำการติดตั้งตาม wizard
- ติดตั้งเสร็จสิ้น หลังจากที่ติดตั้งเสร็จแล้ว คุณก็จะมีตัวเลือกว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อ
- เชื่อมต่อหรือกำหนดค่า Tor หลังจากที่ Tor ติดตั้งเสร็จแล้ว คุณก็มีตัวเลือกที่จะ "Connect (เชื่อมต่อ)" หรือ "Configure (กำหนดค่า)" ถ้าคุณกำลังท่องเว็บอยู่ในเครือข่ายหรือตำแหน่งที่มีการจำกัด คลิก "Configure" ตอนที่คุณคลิก "Configure" มันจะถามคุณว่า Tor ถูกเซ็นเซอร์ในประเทศของคุณหรือไม่ หรือว่าคุณกำลังใช้พร็อกซี่ — จากนั้นมันจะช่วยคุณกำหนดค่า pluggable transport ถ้าไม่อย่างนั้น คุณสามารถคลิก "Connect" เพื่อเริ่มใช้งาน Tor ได้ในทันที
วิธีการดาวน์โหลด Tor สำหรับ Mac
- รับบริการจาก VPN เราแนะนำ ExpressVPN เพราะมันมีการเข้ารหัสระดับทหารและการป้องกันการรั่วไหลที่จะทำให้คุณท่อง dark web ได้อย่างไม่เปิดเผยตัวตน
- เชื่อมต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์ใดก็ได้ เซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ใกล้เคียงนั้นมักจะมีความเร็วดีที่สุด ดังนั้นคุณควรจะเลือกที่อยู่ใกล้คุณที่สุด คุณยังสามารถเลือก "ตำแหน่งอัจฉริยะ" และปล่อยให้แอปค้นหาเซิร์ฟเวอร์ที่เร็วที่สุดอัตโนมัติได้ด้วย
- ดาวน์โหลด Tor เข้าไปยัง หน้าการดาวน์โหลด และเลือกตัวติดตั้งสำหรับ Mac
- ลากไฟล์ไปยังหน้าต่างแอปพลิเคชัน นี่จะเริ่มกระบวนการติดตั้งในทันที
- Connect (เชื่อมต่อ) หรือ Configure (กำหนดค่า) Tor หากคุณท่องเว็บในเครือข่ายที่มีการบล็อก Tor (เช่นห้องสมุดหรือที่ทำงาน) ให้เลือก "Configure" ตอนที่คุณคลิก "Configure" มันจะถามคุณว่า Tor ถูกเซ็นเซอร์ในประเทศของคุณหรือไม่ หรือว่าคุณกำลังใช้พร็อกซี่ — จากนั้นมันจะช่วยคุณกำหนดค่า pluggable transport ถ้าไม่อย่างนั้น คุณสามารถคลิก "Connect" เพื่อเริ่มใช้งาน Tor ได้ในทันที
วิธีการดาวน์โหลด Tor สำหรับ Linux
- ดาวน์โหลด VPN ที่เราอยากแนะนำอันดับแรกเลยก็คือ ExpressVPN — มันมีการเข้ารหัสระดับทหารและนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลอันเข้มงวด ซึ่งจะช่วยให้กิจกรรมออนไลน์ของคุณนั้นมีความเป็นส่วนตัวอยู่เสมอ
- เชื่อมต่อ VPN เปิดเทอร์มินัลใหม่ จากนั้นให้ run คำสั่งนี้: expressvpn connect หรือหากต้องการติดตั้งอัตโนมัติ "ตำแหน่งอัจฉริยะ" ให้ใช้คำสั่ง expressvpn connect smart
- ดาวน์โหลด Tor launcher เข้าไปยังหน้าดาวน์โหลดของ Tor บน FlatHub — ดาวน์โหลด launcher สำหรับ Linux
- ติดตั้งไฟล์ ค้นหาโฟลเดอร์ดาวน์โหลด (หรือตำแหน่งใดก็ตามที่คุณดาวน์โหลด Tor Launcher เอาไว้) และก็เปิดไฟล์
- เชื่อมต่อหรือกำหนดค่า Tor คลิก "Launch (เริ่ม)" เพื่อเริ่ม Tor จากนั้นคุณจะมีตัวเลือกระหว่าง "Connect" หรือ "Configure" หากคุณท่องเว็บจากเครือข่ายที่บล็อก Tor ให้คุณเลือก "Configure" ตอนที่คุณคลิก "Configure" มันจะถามคุณว่า Tor ถูกเซ็นเซอร์ในประเทศของคุณหรือไม่ หรือว่าคุณกำลังใช้พร็อกซี่ — จากนั้นมันจะช่วยคุณกำหนดค่า pluggable transport ถ้าไม่ คุณก็สามารถเลือก "Connect" เพื่อเริ่มท่อง dark web ได้ในทันที
ทดลองใช้งาน ExpressVPN วันนี้เลย
วิธีการติดตั้ง Tor
- จัดการส่วนเสริมของ Tor เราแนะนำให้เปิดส่วนเสริมทั้งหมดของ Tor เพื่อเพิ่มความปลอดภัย คลิกที่ไอคอนแฮมเบอร์เกอร์ จากนั้นเรื่อง Preferences (การกำหนดค่า) > Extensions & Themes (ส่วนขยายและธีม) ในนี้คุณจะเจอกับ HTTPS Everywhere ซึ่งจะอนุญาตเฉพาะเวอร์ชั่น HTTPS (ปลอดภัย) ของเว็บไซต์ NoScript จะปิด JavaScript บนเว็บไซต์ที่ไม่ได้รับความเชื่อถือ HTTPS Everywhere และ NoScript นั้นจะถูกเปิดใช้งานเป็นค่าเริ่มต้น แต่คุณสามารถจัดการมันได้อย่างง่ายดายในการตั้งค่าของ Tor ถ้าคุณต้องการ
- ตั้งค่าระดับความปลอดภัย สำหรับความปลอดภัยที่เพิ่มมากขึ้น คุณสามารถตั้งค่าระดับความปลอดภัยเป็น "Safest (ปลอดภัยที่สุด)" คุณสามารถทำแบบนี้่ได้ด้วยการคลิกที่ปุ่มโล่ตรงมุมขวาบนของเบราว์เซอร์ จากนั้นคลิกที่ “Advanced Security Settings (การตั้งค่าความปลอดภัยขั้นสูง)”
- เริ่มท่อง dark web อย่างปลอดภัยได้เลย! อย่าลืมเชื่อมต่อ VPN ก่อนที่จะเปิด Tor เพื่อความปลอดภัยขั้นสูงสุด
ทดลองใช้งาน ExpressVPN วันนี้เลย
VPN ที่ดีที่สุดสำหรับใช้เข้า Dark Web อย่างปลอดภัย จากประเทศไทย ในปี 2023
1. ExpressVPN — VPN สำหรับ Dark Web ที่ดีที่สุด มีการป้องกันเรื่องความเป็นส่วนตัวอันแข็งแกร่ง และมีความเร็วอันน่าประทับใจ
ทดสอบใน ตุลาคม 2023 ทดลองใช้งานได้อย่างปลอดภัย 30 วัน
- ฟีเจอร์ความเป็นส่วนตัวทันสมัยสำหรับไว้ปกป้องกิจกรรมออนไลน์ของคุณไม่ให้รั่วไหลออกไป
- ความเร็วสูงเพื่อให้ Tor ทำงานได้อย่างราบรื่น
- 3,000 เซิร์ฟเวอร์ใน 105 ประเทศ (รวมถึงประเทศไทย) เพื่อปกปิดตำแหน่งที่แท้จริงของคุณอย่างมีประสิทธิภาพ
- 8 การเชื่อมต่อพร้อมกัน
- ใช้งานได้กับ: Tor, Freenet, Invisible Internet Project (I2P) และอื่น ๆ
- ใช้งานเข้ากันได้กับ: Windows, Mac, iOS, Android, Linux, เราเตอร์ และอื่น ๆ
- แอปและส่วนขยายเป็นภาษาไทย
- ฐานข้อมูล, อีเมล และแชทรองรับภาษาไทย
ExpressVPN นั้นมีฟีเจอร์ความเป็นส่วนตัวที่ดีที่สุดเพื่อช่วยปกป้องกิจกรรมบนโลกออนไลน์ของคุณให้ปลอดภัย มันใช้งานเทคโนโลยี TrustedServer ซึ่งเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดของมันจะเป็นแบบ RAM และก็จะมีการลบข้อมูลทุกครั้งที่มีการรีบูท นี่จะเป็นการช่วยให้มั่นใจว่าข้อมูลของคุณจะไม่ถูกเก็บเอาไว้ และก็จะไม่ถูกนำไปแชร์ได้ แถมมันยังใช้งาน Private DNS ซึ่งหมายความว่ามันจะเปลี่ยนเส้นทางทราฟฟิค dark web ทั้งหมดของคุณไปยังเซิร์ฟเวอร์ DNS ที่มีการเข้ารหัสของพวกเขาเอง แบบนี้ก็จะไม่มีใครสามารถมาแทรกแซงหรือดูกิจกรรมที่คุณกระทำบน dark web ได้
มันยังทำตามนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลอย่างเข้มงวดอีกด้วย ซึ่งก็หมายความว่ามันจะไม่เก็บข้อมูลกิจกรรมของคุณเอาไว้
นอกจากจะมีฟีเจอร์ความเป็นส่วนตัวที่ดีที่สุดแล้ว ExpressVPN นั้นยังมาพร้อมกับ ฟีเจอร์ความปลอดภัยที่แข็งแกร่งอย่าง การเข้ารหัส 256-bit AES และการป้องกันการรั่วไหลของ IP และ DNS ด้วย เราอยากให้แน่ใจจริง ๆ ว่ามันสามารถเชื่อถือได้ เราจึงได้ทำการทดสอบด้วยเครื่องมืออีกตัว — ซึ่งมันก็ไม่ตรวจพบการรั่วไหลใด ๆ เลย
คุณยังจะสามารถใช้งาน kill switch แบบล็อกเครือข่ายได้ด้วย — ในกรณีที่ VPN เกิดขาดการเชื่อมต่อ มันก็จะตัดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของคุณไปด้วย เพื่อปกป้องไม่ให้ข้อมูลของคุณรั่วไหลออกมา เราได้ทำการทดสอบประสิทธิภาพของมันด้วยการเปิดใช้งาน kill switch และก็เปลี่ยนเซิร์ฟเวอร์ ระหว่าง 15 วินาทีที่มันเปลี่ยนเซิร์ฟเวอร์ การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของเราก็จะถูกตัดไปด้วย
ExpressVPN นั้นยังมีโปรโตคอลความปลอดภัยที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครชื่อ Lightway อีกด้วย โปรโตคอลนี้ถูกปรับแต่งมาเพื่อความเร็วที่สูงขึ้นโดยไม่ลดเรื่องของความปลอดภัย — มันจะมีความเร็วสูงกว่าโปรโตคอล VPN ทั่วไป (อย่างเช่น OpenVPN)
เบราว์เซอร์ Tor นั้นใช้ระบบแบบ relays กับ nodes และข้อมูลของคุณจะเดินทางผ่านเซิร์ฟเวอร์อย่างสุ่ม 3 แห่งที่เรียกว่า relays ก่อนที่มันจะไปถึงทางออกที่เรียกว่า node กระบวนการนี้จะทำให้ความเร็วในการท่องเว็บของคุณนั้นช้าลง แต่ Lightway ของ ExpressVPN นั้นทำให้เราสามารถใช้ Tor ท่องเว็บได้อย่างไม่รู้สึกช้าลงเลย เราได้ความเร็วเฉลี่ยอยู่ที่ 46 Mbps เมื่อเทียบกับความเร็วฐานที่ 50 Mbps ซึ่งก็ตกลงแค่ 8% เท่านั้น
Split tunneling จะทำให้คุณสามารถเลือกได้ว่าแอปไหนต้องการการปกป้องจาก VPN มันใช้เวลาการตั้งค่าเพียงแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น นี่จะทำให้คุณสามารถเปลี่ยนเส้นทางทราฟฟิคของ Tor ไปยัง VPN ในขณะที่แอป, เบราว์เซอร์, เกม และ client P2P อื่น ๆ จะยังสามารถใช้การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตปกติได้ ฟีเจอร์นี้จะช่วยปกป้องทราฟฟิค dark web ของคุณโดยไม่จำกัดการใช้งานเครือข่ายปกติของคุณ ด้วยการเสริมความเร็วและประสิทธิภาพ
ยิ่งไปกว่านั้น ExpressVPN ยังใช้งานได้กับบริการสตรีมมิ่งระดับนานาชาติอย่าง Netflix สหรัฐอเมริกา (และอีกหลายประเทศ), Amazon Prime, Hulu, HBO Max, Twitch, และอีกมากมาย รวมถึงช่อง ONE 31 ด้วย
ปัญหาเดียวสำหรับเราก็คือ ราคามันค่อนข้างสูง โดยเริ่มต้นอยู่ที่ $6.67/เดือน อย่างไรก็ตาม ExpressVPN นั้นมีการลดราคาอยู่เป็นประจำ เราได้แถมให้ใช้บริการฟรี 3 เดือน ตอนที่เราสมัครใช้งานแพ็กเกจรายปี แพลนระยะยาวนั้นจะมีความคุ้มค่ามากที่สุด และมันก็ยังมีแถม Backblaze คลาวด์แบบเข้ารหัส ให้ใช้ฟรีหนึ่งปีด้วย
คุณสามารถ ทดลองใช้ ExpressVPN ได้อย่างไม่มีความเสี่ยง เพราะพวกเขามีการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน คุณสามารถขอคืนเงินได้เต็มจำนวนถ้าคุณลองใช้แล้วรู้สึกไม่เหมาะกับคุณ เราได้ทำการทดสอบกระบวนการขอคืนเงินด้วยตนเองแล้ว หลังจากที่ใช้งานไป 26 วัน ที่เราต้องทำก็แค่ติดต่อตัวแทนผ่านไลฟ์แชท 24/7 และก็ตอบคำถามเกี่ยวกับประสบการณ์การใช้งานเล็กน้อย หลังจากนั้นคำร้องของเราก็ได้รับการอนุมัติ และเราก็ได้รับเงินคืนภายในเวลา 3 วัน
2. CyberGhost — เซิร์ฟเวอร์ NoSpy สำหรับปิดบังกิจกรรมออนไลน์ของคุณ ในประเทศไทย หรือจากที่ใดก็ได้
- เซิร์ฟเวอร์ NoSpy จะช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยขึ้นไปอีกขั้น ตอนที่คุณเข้า dark web
- 9,561 เซิร์ฟเวอร์ใน 100 ประเทศ (โดยที่มีเซิร์ฟเวอร์อยู่ใน กรุงเทพฯ) เพื่อใช้ปิดบังตำแหน่งที่แท้จริงของคุณ
- ความเร็วสูงเพื่อลดเวลาการโหลดตอนที่ใช้งาน Tor
- 7 การเชื่อมต่อพร้อมกัน
- ใช้งานได้กับ: Tor, Freenet, Invisible Internet Project (I2P) และอื่น ๆ
- ใช้งานเข้ากันได้กับ: Windows, Mac, iOS, Android, Linux, เราเตอร์ และอื่น ๆ
CyberGhost นั้นใช้เซิร์ฟเวอร์ NoSpy เพื่อความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยที่ดียิ่งขึ้น เซิร์ฟเวอร์ที่ถูกเข้ารหัสนั้นจะตั้งอยู่ข้างในสำนักงานใหญ่ของ CyberGhost ที่โรมาเนีย และจะมีเฉพาะพนักงานที่ผ่านการคัดกรองแล้วเท่านั้นที่จะเข้าถึงมันได้ — นี่จะช่วยลดความเสี่ยงที่บุคคลที่สามจะเข้ามาแทรกแซงได้ โรมาเนียนั้นตั้งอยู่นอกพื้นที่ของ 5/9/14 Eyes และก็จะคล้ายกับ ExpressVPN ตรงที่ CyberGhost นั้นไม่จำเป็นต้องแบ่งปันข้อมูล ถึงแม้ว่าองค์กรของรัฐบาลจะมาขอก็ตาม
มันมีฟีเจอร์ความปลอดภัยอันทันสมัย อย่างเช่น การเข้ารหัส 256-bit, การป้องกันการรั่วไหล และ kill switch นอกจากนี้ นโยบายการไม่บันทึกข้อมูลของมันก็แปลว่าข้อมูลของคุณจะไม่ถูกเก็บเอาไว้ ระหว่างการทดสอบของเรา เราก็ไม่พบการรั่วไหลใด ๆ บน ipleak.net เลยด้วย นี่หมายความว่าเมื่อไรก็ตามที่คุณท่อง dark web ตำแหน่งและข้อมูลที่แท้จริงของคุณก็จะไม่รั่วไหลออกไป
ข้อเสียเล็กน้อยก็คือเซิร์ฟเวอร์ระยะไกลของ CyberGhost นั้นไม่เร็วเท่ากับ ExpressVPN อย่างไรก็ตาม นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเราเนื่องจาก ความเร็วเฉลี่ยของเราอยู่ที่ 40 Mbps ในเซิร์ฟเวอร์สหรัฐอเมริกา เราทดสอบดูแล้วความเร็วตกลงแค่ 20% จากความเร็วฐานของเราเท่านั้น
CyberGhost นั้นมีแพลนสมัครสมาชิกให้เลือกหลายแพลน แต่แพลนระยะยาวนั้นมีความคุ้มค่าสูงที่สุด แพลนรายปีนั้นยังมีการรับประกันคืนเงินที่ยาวกว่าด้วย (แพลนรายเดือนจะรับประกันแค่ 14 วัน) คุณสามารถ รับบริการจาก CyberGhost ได้ในราคาถูกมาก ๆ (เริ่มต้นที่ $2.11/เดือน) ถ้าคุณเลือกใช้แพลนแบบ 3 ปี
มันง่ายมากที่จะ ทดลองใช้ CyberGhost เพราะว่ามันมีการรับประกันคืนเงินยาวถึง 45 วัน หลังจากที่ใช้งานไปแล้ว 35 วัน เราก็ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าและก็ขอคืนเงิน ทางตัวแทนก็แค่ถามเหตุผลจากเราว่าทำไมถึงอยากยกเลิก แต่หลังจากนั้นไม่นานก็อนุมัติคำร้องให้เรา เราได้รับเงินคืนหลังจากนั้นภายในหนึ่งสัปดาห์
3. Private Internet Access — ฟีเจอร์ MACE ที่จะปกป้องคุณจากโฆษณาและมัลแวร์บน Dark Web
- ฟีเจอร์ MACE จะช่วยบล็อกโฆษณา, มัลแวร์ และตัวติดตาม ในขณะที่คุณกำลังท่อง dark web
- 29,650 เซิร์ฟเวอร์ใน 91 ประเทศ เพื่อช่วยปิดบังตำแหน่งที่แท้จริงของคุณ
- ความเร็วดีสำหรับใช้ท่อง dark web ได้อย่างไม่ถูกรบกวน
- ไม่จำกัด การเชื่อมต่อพร้อมกัน
- ใช้งานได้กับ: Tor, Freenet, Invisible Internet Project (I2P) และอื่น ๆ
- ใช้งานเข้ากันได้กับ: Windows, Mac, iOS, Android, Linux, เราเตอร์ และอื่น ๆ
- แอปและส่วนขยายเป็นภาษาไทย
PIA นั้นมีฟีเจอร์ที่ถูกบิ้วท์อินมาในตัวชื่อว่า MACE ซึ่งจะสามารถบล็อกโฆษณาและช่วยปกป้องระบบของคุณจากมัลแวร์และตัวติดตาม ฟีเจอร์นี้นั้นใช้งานเข้ากันได้กับ Tor และมันก็มีประโยชน์มาก เนื่องจากเบราว์เซอร์ dark web จะไม่แนะนำให้คุณติดตั้งส่วนเสริม (อย่างเช่นตัวบล็อกโฆษณา) ด้วยเหตุผลทางด้านความเป็นส่วนตัว เราทำการทดสอบ MACE แล้ว และมันก็สามารถบล็อกโฆษณาบนเพจได้ และก็ยังบล็อกป๊อปอัพได้บางส่วนด้วย
คุณจะได้รับมากกว่าฟีเจอร์ความปลอดภัยมาตรฐาน ถ้าคุณเลือกใช้ PIA มันจะมีการเข้ารหัส 256-bit แต่คุณก็สามารถเลือกใช้แบบ 126-bit ที่อ่อนแอกว่าได้ — นี่กํ็จะยังคงช่วยป้องกันให้คุณปลอดภัยเวลาท่อง dark web แต่มันจะช่วยเพิ่มความเร็วให้คุณ Kill switch นั้นสามารถปรับแต่งได้และก็มีฟีเจอร์ Multi-Hop ที่จะส่งทราฟฟิคของคุณไปยัง 2 เซิร์ฟเวอร์เพื่อช่วยเพิ่มการป้องกันเป็นสองเท่า
ปัญหาเดียวเกี่ยวกับ PIA ก็คือว่ามันตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ พันธมิตร 5 Eyes อย่างไรก็ตาม นโยบายการไม่บันทึกข้อมูลของ PIA นั้นผ่านการพิสูจน์มาหลายครั้งแล้วในสถานการณ์จริง
ถึงแม้ว่ามันจะมีแพลนสมัครสมาชิกหลายรูปแบบ แต่เราก็เห็นว่าแพลนระยะยาวนั้นมีราคาถูกที่สุด คุณสามารถรับบริการจาก PIA ได้ในราคาเพียง $2.11/เดือน ถ้าคุณเลือกใช้แพลน 2 ปี คุณสามารถใช้เงินคริปโตจ่ายค่าสมัครสมาชิกได้ด้วย เพื่อที่จะรักษาสถานะการไม่เปิดเผยตัวตน
คุณสามารถ ทดลองใช้งาน PIA ได้ฟรีด้วยการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วันของมัน ถ้าคุณลองใช้แล้วเห็นว่า VPN นี้ไม่เหมาะสำหรับคุณ คุณก็สามารถขอคืนเงินได้อย่างง่ายดาย เรายกเลิกการสมัครสมาชิกของเราหลังจากที่ใช้งานไป 26 วัน ผ่านการติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าทางแชท 24/7 ทางตัวแทนทำการขอคืนเงินให้เราในทันที และเราก็ได้รับเงินคืนภายในเวลา 4 วัน
ทดลองใช้ Private Internet Access เลย
เคล็ดลับเพิ่มเติมในการใช้งาน Dark Web อย่างปลอดภัย
ถึงแม้จะมีเหตุผลดี ๆ มากมายในการเข้าถึง dark web แต่มันก็อาจทำให้คุณต้องพบกับภัยอันตรายต่าง ๆ มากมายด้วยเช่นกัน การใช้ VPN ที่มีความน่าเชื่อถืออย่าง ExpressVPN จะช่วยปกป้องคุณเวลาใช้งานบน Dark Web อย่างไรก็ตาม คุณควรจะมีมาตรการป้องกันทั่วไปด้วยเพื่อเพิ่มความปลอดภัยของคุณให้มากที่สุดในขณะที่คุณกำลังท่องเว็บ คุณควรจะมีมาตรการป้องกันดังต่อไปนี้ด้วย:
- ใช้ซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัส
- ใช้อีเมลอื่น
- เก็บรักษาตัวตนให้เป็นเรื่องส่วนตัว
- ใช้ Bitcoin
- ซื้อของจากร้านที่เชื่อถือเท่านั้น
- ปิดแอปและบริการทั้งหมดที่ไม่จำเป็นบนอุปกรณ์ของคุณ
- ปิดตำแหน่งของคุณ
- หลีกเลี่ยงส่วนเสริม
- ปิด JavaScript บนเบราว์เซอร์ Tor
- อย่าเปลี่ยนขนาดหน้าต่าง Tor ของคุณ
- ปิดกล้องและลำโพงของคุณ
- สืบค้นเกี่ยวกับเว็บไซต์ก่อนที่จะทำการเข้าถึง
- ระวังสิ่งที่คุณเปิดให้ดี ๆ
- เปิดไฟล์ที่คุณดาวน์โหลดแบบออฟไลน์
- ใช้ระบบปฏิบัติการที่เน้นด้านความปลอดภัย
เข้าถึง Dark Web อย่างปลอดภัยวันนี้เลย
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเข้า Dark Web อย่างปลอดภัย
ฉันสามารถเข้าถึงเว็บไซต์บน dark web บนโทรศัพท์, iPad หรือ Chromebook ได้หรือไม่?
คุณสามารถเข้าถึง Tor บนมือถือหรือ iPad ได้ (ซึ่งเราไม่แนะนำ) — แต่ Chromebook จะทำไม่ได้ Tor นั้นมีแอปสำหรับทั้ง Android และ iOS อย่างไรก็ตาม อุปกรณ์เหล่านี้มันไม่สามารถดูแลข้อมูลของคุณให้ปลอดภัยได้ ถ้าคุณคิดจะเข้าถึง dark web จากโทรศัพท์มือถือของคุณ เราแนะนำเป็นอย่างยิ่งให้คุณปกป้องตนเองด้วยการใช้ VPN VPN ทั้งหมดในรายการนี้ จะมีแอปสำหรับ iOS และ Android แถมมันยังมีฟีเจอร์ความปลอดภัยระดับชั้นนำของโลกเพื่อช่วยให้คุณท่องเว็บได้อย่างเป็นส่วนตัวมากที่สุด
ผู้ใช้งาน Android จะต้องดาวน์โหลด Orbot หรือ Orfox เพื่อทำการเข้าถึง dark web บนมือถือของพวกเขา Orbot นั้นจะเชื่อมต่อคุณเข้าหาเครือข่าย Tor และ Orfox เป็นเบราว์เซอร์จริง ๆ ที่คุณจะต้องใช้ สำหรับผู้ใช้งาน iOS คุณจะต้องใช้แอป Onion Browser อย่าลืมปิดกล้องและปิดลำโพงตอนที่คุณดาวน์โหลดแอปเหล่านี้
สำหรับผู้ใช้งาน Chromebook — น่าเสียดายแต่มันไม่มีแอป Tor อย่างเป็นทางการสำหรับ ChromeOS ในปัจจุบัน
ฉันต้องใช้ VPN เพื่อเข้าถึง dark web ในประเทศไทย หรือไม่?
การใช้งาน VPN บน dark web นั้นเป็นมาตรการป้องกันที่เราแนะนำเป็นอย่างยิ่ง Tor นั้นจะช่วยรักษาสถานะการไม่เปิดเผยตัวตนภายในเครือข่าย แต่ ISP ของคุณก็ยังสามารถมองเห็นได้อยู่ดีว่าคุณกำลังทำการเข้าถึงมัน ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย แต่ Tor นั้นก็เป็นสิ่งที่ถูกมองว่าเกี่ยวข้องกับอาชญากรรม นี่หมายความว่า ISP ของคุณนั้นอาจจะรายงานเรื่องของคุณให้เจ้าหน้าที่ทราบ หรืออาจจะบอกเลิกสัญญากับคุณเลยก็ได้
ไม่ใช่แค่นั้น แต่ทุกครั้งที่คุณเข้าถึง dark web คุณก็อาจจะตกเป็นเป้าของภัยอันตรายทางไซเบอร์มากมาย — เช่นแฮ็กเกอร์ผู้ที่พยายามขโมยข้อมูล, มัลแวร์, ไวรัส และอื่น ๆ VPN จะช่วยรักษาสถานะการไม่เปิดเผยตัวตนและปกป้องข้อมูลส่วนตัวของคุณ เพื่อให้คุณสามารถท่อง dark web ได้อย่างปลอดภัย
ฉันสามารถเข้า dark web โดยใช้ VPN ฟรีได้หรือไม่?
สามารถทำได้ แต่เราไม่แนะนำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้แน่ใจว่ากิจกรรมบน dark web ของคุณนั้นได้รับการคุ้มกัน เราแนะนำให้คุณใช้เฉพาะบริการระดับพรีเมียมที่มีความน่าเชื่อถือเท่านั้น
VPN ฟรีนั้นมีความปลอดภัยและความเสถียรไม่เทียบเท่ากับ VPN ระดับพรีเมียม พวกมันผ่านการพิสูจน์ในอดีตมาแล้วว่าเคยทำให้ที่อยู่ IP ของผู้ใช้งานรั่วไหล — นี่จะทำให้แฮ็กเกอร์และเจ้าหน้าที่สามารถดักจับข้อมูลของคุณได้ นอกจากนี้่พวกเขายังจำกัดแบนด์วิดท์และความเร็วของคุณ รวมถึงยังนำเสนอโฆษณาและป๊อปอัพอันน่ารำคาญใส่คุณด้วย การใช้บริการฟรีนั้นไม่คุ้มกับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น ในเมื่อคุณสามารถเลือกใช้ VPN ในรายการนี้ได้ผ่านการรับประกันคืนเงินอย่างไม่มีความเสี่ยง
มีตัวเลือกอื่นนอกจาก Tor อีกหรือไม่?
มีอีกหลายวิธีในการเข้าถึง dark web โดยไม่ผ่าน Tor แต่มันก็จะมีระดับความสามารถในการเข้าถึงและความปลอดภัยที่ต่างกันออกไป อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าคุณจะเลือกใช้เบราว์เซอร์ไหน มันต่างก็มีความเสี่ยงในการเข้าถึง dark web ทั้งนั้น เราจึงแนะนำให้คุณท่องเว็บอย่างปลอดภัยขึ้นด้วยการใช้ VPN
เครือข่ายหนึ่งที่แยกจาก Tor คือ I2P ซึ่งจะเปิดให้คุณเข้าถึงได้แค่บางเว็บไซต์ (เรียกว่า “eepsites” — I2P จะเข้าถึงเว็บไซต์ได้ไม่มากเท่ากับ Tor นอกจากนี้ มันก็ยังกำหนดค่าได้ยากกว่า; หลังจากที่คุณดาวน์โหลดและติดตั้งแล้ว คุณก็จะต้องกำหนดค่ามันผ่านเราเตอร์, แอปแยก, และ/หรือการตั้งค่าพร็อกซี่ของเบราว์เซอร์พร็อกซี่
อีกทางหนึ่งก็คือ Freenet; เช่นเดียวกันกับ I2P คือมันจะไม่เปิดให้คุณเข้าถึงลิงก์.onion — เข้าถึงได้เฉพาะเนื้อหาที่ถูกอัปโหลดขึ้น Freenet เท่านั้น มันเป็นพื้นที่สำหรับการแชร์เนื้อหาแบบ peer-to-peer อย่างไม่เปิดเผยตัวตน ผู้ใช้งานสามารถสร้างกลุ่มส่วนตัวสำหรับแชร์เนื้อหาได้ เรียกว่าโหมด darknet หรือพวกเขาสามารถใช้โหมด opennet เพื่อถูกจับกลุ่มกับ peer อื่น ๆ บนเครือข่ายแบบสุ่มได้ เช่นเดียวกันกับ I2P มันจะใช้ฐานข้อมูลเครือข่ายแบบแจกแจงเพื่อช่วยป้องกันการจู่โจมทางไซเบอร์
มี search engine สำหรับ dark web หรือไม่?
มีให้เลือกอยู่ — อย่างไรก็ตาม การเข้าชมเว็บไซต์ที่คุณค้นหาเจอจาก search engine นั้นอาจเป็นเรื่องที่มีความอันตราย; บางเว็บไซต์นั้นถูกตั้งขึ้นมาโดยแฮ็กเกอร์เพื่อเก็บข้อมูลของคุณ และบางเว็บไซต์นั้นก็อาจมีไฟล์ที่เป็นอันตรายต่อเครื่องของคุณ คำแนะนำของเราก็คือ คุณควรจะสืบค้นเกี่ยวกับเว็บไซต์ก่อนที่จะกดเข้าผ่านทาง search engine และคุณควรจะปกป้องข้อมูลส่วนตัวด้วย VPN ที่มีความปลอดภัยสูง
Dark web search engine นั้นจะหน้าตาไม่เหมือน search engine ที่คุณพบเห็นได้ทั่วไปอย่าง Google และ มันก็ยังประสิทธิภาพไม่ค่อยดีสำหรับใช้ค้นหาสิี่งที่คุณต้องการจะเข้าดูด้วย นี่ก็เพราะการพัฒนาอย่างไม่มีหยุดของ dark web — search engine จึงไล่ตามการเปลี่ยนแปลงนั้นไม่ทัน และก็มักจะให้ผลลัพธ์ที่ไม่ถูกต้องหรือมีความซ้ำซาก
อย่างไรก็ตาม มี search engine ที่มีความน่าเชื่อถือบางรายที่อาจจะช่วยคุณได้เล็กน้อย อย่างเช่น:
Tor ก่อน VPN กับ VPN ก่อน Tor นั้นต่างกันอย่างไร?
ข้อแตกต่างก็คือลำดับการผ่านของทราฟฟิคอินเทอร์เน็ต Tor ก่อน VPN จะส่งทราฟฟิคของคุณไปยังเซิร์ฟเวอร์ VPN ก่อนที่จะส่งไปเครือข่าย Tor — ในขณะที่ VPN ก่อน Tor นั้นจะส่งทราฟฟิคของคุณไปยังเบราว์เซอร์ Tor ก่อน
ทั้งสองวิธีนี้ต่างก็ดีกว่าการไม่ใช้ VPN เลย ไม่ว่าจะยังไง เราก็แนะนำให้คุณใช้ Tor กับ VPN ที่ไม่มีการบันทึกข้อมูล — นี่จะช่วยป้องกันไม่ให้บุคคลที่สามรู้ว่าคุณกำลังใช้ Tor อยู่; พวกเขาจะรู้แค่ว่าคุณกำลังใช้ VPN
ขอให้จำไว้ว่า เราไม่แนะนำให้ใช้ VPN ก่อน Tor — แม้แต่ตัวเบราว์เซอร์ Tor เองเขาก็ไม่แนะนำ
ทำไม dark web ถึงหยุดหรือปิดไป?
Dark web นั้นไม่เคยถูกปิดเนื่องจากมันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย — แถมมันยังช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถสืบสวนเกี่ยวกับอาชญากรรมและความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นได้ทั่วโลก เนื่องจากมันมีเซิร์ฟเวอร์เป็นพันที่เชื่อมต่อถึง dark web รอบโลก การที่รัฐบาลปิดไปได้แห่งหนึ่งมันก็ไม่ได้ช่วยอะไรมาก — ยังไงมันก็จะมีตัวตนอยู่ที่อื่นได้อยู่ดี
เครือข่าย Tor นั้นถูกพัฒนาขึ้นโดยรัฐบาลสหรัฐอเมริกาเพื่อใช้สื่อสารข้อมูลข่าวกรองอย่างปลอดภัย มันช่วยให้พวกเขาสามารถระบุตัวอาชญากรและสื่อสารกับนักเคลื่อนไหวจากภูมิภาคที่ถูกกดขี่ได้ ถึงขั้นมีเว็บไซต์ที่รัฐบาลสร้างขึ้นเพื่อให้เจ้าหน้าที่ใช้จับอาชญากร; เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาทางด้านกฎหมาย ถ้าคุณบังเอิญไปเข้าเว็บไซต์เหล่านี้เข้า เราแนะนำให้คุณเข้าถึง dark web โดยมีการป้องกันที่มากเพียงพอ
ปกป้องความเป็นส่วนตัวบน Dark Web วันนี้เลย
Dark web นั้นเป็นสถานที่ที่มีความอันตรายอย่างไม่ต้องสงสัย แต่มันก็สามารถสร้างประโยชน์ได้มากมายด้วย มันมีประโยชน์ด้านการสืบค้น, ช่วยนักข่าวให้เปิดเผยเรื่องความอยุติธรรม, การสื่อสารอย่างไม่เปิดเผยตัวตน, และสืบสวนเรื่องเกี่ยวกับอาชญากรรม
ถึงแม้ว่ามันจะมีประโยชน์มากมาย แต่มันก็เป็นเรื่องสำคัญที่คุณจะต้องปกป้องตัวเองตอนที่เข้าชม dark web คุณควรจะทำการสืบค้นเกี่ยวกับเว็บไซต์ก่อนที่คุณจะเข้าไปดู เพื่อให้มั่นใจว่าคุณไม่ได้เข้าเว็บไซต์ที่ผิดกฎหมายหรือมีอันตราย นอกจากนี้ การใช้ VPN นั้นจะช่วยรักษาสถานะให้คุณไม่ต้องเปิดเผยตัวตน และช่วยปกป้องข้อมูลส่วนตัวของคุณ
ในการจะเข้าถึง dark web อย่างปลอดภัย เราแนะนำให้คุณใช้ ExpressVPN — มันมีความปลอดภัยสูงและจะช่วยรักษาความเป็นส่วนตัวให้กิจกรรมของคุณ คุณสามารถ ทดลองใช้งานมันได้อย่างไม่มีความเสี่ยง เนื่องจากมันมีการรับประกันคืนเงิน ถ้าคุณลองใช้แล้วรู้สึกว่ามันไม่เหมาะกับคุณ คุณก็สามารถขอคืนเงินอย่างเต็มจำนวนได้ภายใน 30 วัน
สรุปแล้ว VPN ที่ดีที่สุดสำหรับใช้เข้าถึง dark web อย่างปลอดภัยได้แก่...
ข้อมูลของคุณจะถูกเปิดเผยต่อเว็บไซต์ที่คุณเข้าชม!
หมายเลข IP ของคุณ:
ตำแหน่งของคุณ:
ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของคุณ:
ข้อมูลข้างต้นสามารถใช้เพื่อติดตาม กำหนดเป้าหมายโฆษณาและติดตามกิจกรรมที่คุณทำบนอินเตอร์เน็ตได้
VPN สามารถช่วยคุณซ่อนข้อมูลเหล่านี้จากเว็บไซต์ เพื่อให้คุณได้รับการปกป้องตลอดเวลา เราขอแนะนำ ExpressVPN - VPN อันดับ #1 จากผู้ให้บริการกว่า 350 รายที่เราได้ทดสอบ มีการเข้ารหัสระดับทหารและฟีเจอร์ความเป็นส่วนตัวมากมายที่จะช่วยให้คุณมั่นใจในความปลอดภัยเมื่อใช้งานอินเตอร์เน็ต - นอกจากนี้ยังมีส่วนลดจาก 49% อีกด้วย