คุณอาจจะเคยได้ยินชื่อของ Proton Technologies มาก่อน เพราะพวกเขาเป็นผู้สร้าง ProtonMail ซึ่งขณะนี้เป็น ผู้ให้บริการอีเมลแบบเข้ารหัสรายใหญ่ที่สุด และตอนนี้พวกเขาก็มุ่งความสนใจไปที่ VPN แทน แล้ว Proton VPN มีศักยภาพที่จะเป็นจุดเปลี่ยนได้เหมือนกับโครงการต่างๆที่พวกเขาทำก่อนหน้านี้ได้หรือไม่?

ถ้าดูจากชื่อเสียงของพวกเขาแล้ว เราคาดหวังว่า Proton VPN จะโดดเด่นในเรื่องของความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย และพวกเขาก็ทำได้จริงๆ ตั้งแต่ฟีเจอร์พื้นฐานไปจนถึงฟีเจอร์ที่เป็นจุดเด่น VPN นี้จะช่วยให้คุณปลอดภัยบนโลกอินเตอร์เน็ตได้อย่างแน่นอน

Proton VPN ทำงานกับ OpenVPN สองแบบ ไม่สามารถใช้โปรโตคอลแบบอื่นได้ และเหตุผลที่ Proton ให้ก็คือการที่ OpenVPN แทบไม่มีที่ว่างสำหรับการประนีประนอมเลย ถึงแม้โปรโตคอลอื่นๆอาจจะเร็วกว่าและมีราคาถูกกว่า Proton VPN เลือกที่จะไม่ใช้โปรโตคอลเหล่านั้นเพื่อความปลอดภัยที่สูงกว่า

การเข้ารหัสนั้นไม่มีที่ติเลย ทั้ง AES-256 สำหรับทราฟฟิคของเครือข่าย และ 2048-bit RSA สำหรับการแลกเปลี่ยนกุญแจ และ HMAC กับ SHA256 สำหรับการยืนยันข้อความนั้นถือเป็นข้อดีหลัก

และนั่นยังไม่หมด: Proton VPN ยังได้พัฒนาเทคโนโลยีการเปลี่ยนเส้นทางขึ้นมาเอง ซึ่งมีชื่อว่า Secure Core ซึ่งสิ่งที่เทคโนโลยีนี้ทำคือ การนำทราฟฟิคของคุณผ่านเซิฟเวอร์หลายเครื่องก่อนที่จะออกจากเครือข่ายของ Proton เซิฟเวอร์เหล่านี้ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีกฎหมายเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวที่แข็งแกร่ง ซึ่งทำให้แฮคเกอร์ไม่สามารถตรวจสอบทราฟิคเพื่อหา IP addres ที่แท้จริงของผู้ใช้งานได้

ฟีเจอร์อย่าง Secure Core ทำให้ Proton VPN เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ใช้งานอินเตอร์เน็ตในพื้นที่ที่มีการเปลี่ยนแปลง และยังมีข้อดีในมุมอื่นๆอีก เช่น คุณสมบัติ kill-swtich และนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลที่เข้มงวด Proton VPN อยู่ในสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งไม่ได้อยู่ภายใต้ข้อกฎหมายของ EU และสหรัฐฯ​ จึงรับประกันได้ว่าผู้ใช้งานจะได้รับความเป็นส่วนตัว

การปกป้องระดับสูงของ Proton VPN นั้นไม่ได้จำกัดเพียงแค่พื้นที่เสมือนเท่านั้น แต่โครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญๆทั้งหมดก็ ตั้งอยู่ในใต้ดินในหลุมหลบภัยเก่าในสวิตเซอร์แลนด์ นั่นไม่ได้แค่ฟังดูเจ๋ง แต่แสดงให้เห็นถึงความพยายามในการรับประกันความปลอดภัยของฮาร์ดแวร์และประสิทธิภาพในการทำงาน

และความสนใจที่ VPN นี้มีต่อความเป็นส่วนตัวนั้นก็เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นถึงความทุ่มเทในด้านนี้ แล้วในด้านอื่นๆที่สำคัญล่ะ?

การปลดบล็อคคอนเทนต์เป็นหนึ่งเรื่องที่ต้องพูดถึง และ Proton VPN ก็ทำงานได้ดี รวมถึงการปลดบล็อคที่เป็นเรื่องยาก เช่น Netflix และ Hulu แต่ยังมีปัญหากับ BBC iPlayer

สำหรับประสบการณ์ในการสตรีมมิ่ง เราไม่พบปัญหาในการเชื่อมต่อ และยังทำงานได้ดีขึ้นด้วยเซิฟเวอร์ Plus แต่คุณอาจจะต้องปล้นธนาคารมาจ่ายเงินซื้อแพ็คเกจราคาแพง

โดยรวมแล้ว ความเร็วไม่มีตก แม้แต่การใช้งานบนโปรโตคอล OpenVPN แต่นั่นเป็นเรื่องของการใช้งานบนคอมพิวเตอร์ แต่ถ้าพูดถึงการใช้งานบนมือถือแล้วเป็นคนละเรื่องเลย เพราะถึงแม้การเชื่อมต่อจะมีความเสถียร แต่มีความเร็วต่ำมาก ปัญหาหลักคือซอฟต์แวร์ หรือการที่ไม่มีซอฟต์แวร์​

แน่นอน ตอนนี้ยังไม่มีแอปสำหรับ Proton VPN โดยเฉพาะ คุณจะต้องใช้งานซอฟต์แวร์อื่น และการตั้งค่าซอฟต์แวร์เหล่านั้นก็เป็นเรื่องยากและซับซ้อน

ข้อเสียสองเรื่องก็คือความง่ายในการใช้งานและความเร็ว หากคุณใช้งานบนมือถือ คุณจะต้องเตรียมตัวรอหลายนาทีก่อนที่หน้าเพจจะโหลดได้ และหากคุณไม่ต้องการดูสไลด์โชว์ ก็อย่าดูสตรีมมิ่งเลย

ทั้งหมดนี้อาจจะเป็นเรื่องน่าแปลกใจ เพราะเมื่อพิจารณาถึงรายชื่อแพลตฟอร์มที่สามารถใช้งานกับ Proton VPN ได้ ซึ่งก็คือ Windows, Mac, Linux, Android, iOS, และเราเตอร์​แต่ในความเป็นจริงแล้ว client ที่ได้รับการพัฒนาอย่างเต็มรูปแบบคือ Windows ดังนั้นเป็นเรื่องที่ต้องทราบหากคุณไม่ได้เป็นแฟน Microsoft

การบริการลูกค้าก็เป็นอีกอย่างที่ Proton VPN ควรปรับปรุง เพราะเราผิดหวังกับการที่ไม่มีแชทสด และระยะเวลาี่ใช้ในการตอบก็นาน

ระยะเวลาในการตอบคำถามโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 12+ ชั่วโมง และมีกรณีหนึ่งที่ฝ่ายบริการลูกค้าใช้เวลา 3 วัน ในการติดต่อกลับมาหาเรา แต่นอกจากเวลารอแล้ว ทุกอย่างก็ได้รับการจัดการอย่างมืออาชีพ เราได้ทำการทดสอบบริการรับประกันคืนเงิน ซึ่งพวกเขาก็ได้บอกวิธีที่ชัดเจนและตรงไปตรงมา

และเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ทำให้เรายินดีที่จะบอกกับคุณว่า Proton VPN เป็นผู้ให้บริการที่ไม่พยายามจะใช้กลลวงกับลูกค้าที่ต้องการเงินคืน จากประสบการณ์ของเรา เราได้รับเงินคืนทันทีที่กระบวนการเสร็จสิ้น

ขั้นตอนแรกคือการเปลี่ยนบัญชีของคุณเป็นแบบฟรี จากนั้นติดต่อฝ่ายสนับสนุนด้วยคำร้องขอเงินคืน คุณมีเวลา 60 วัน ซึ่งเป็นสองเท่าของผู้ให้บริการรายอื่นๆส่วนใหญ่ พวกเขาจะเริ่มทำทุกๆอย่างและคุณอาจจะได้รับเงินคืนภายในวันเดียวกันนั้นเลยหากคุณโชคดีที่จะได้รับการตอบกลับภายในวันนั้น

สรุปแล้ว Proton VPN อาจเป็นคู่แข่งที่ดีในตลาดของ VPN ที่มุ่งเน้นในเรื่องของความเป็นส่วนตัว แต่ก็เหมือนเป็นผลิตภัณฑ์ที่ยังไม่สมบูรณ์ เพราะถึงจะมีคุณสมบัติต่างๆที่มาพร้อมกับอินเตอร์เฟซที่ดูดี แต่ก็สามารถใช้งานได้กับ Windows ได้อย่างเดียวเท่านั้น

แต่ข้อดีก็คือ Proton ทราบดีถึงข้อเสีย และพวกเขาก็พยายามปรับปรุงพัฒนาอยู่ (เช่น สร้างแอพสำหรับ Android, เพิ่มความง่ายในการชำระเงินด้วย Bitcoin ฯลฯ) และเมื่อการอัพเดตเหล่านี้ถูกนำมาใช้งานแล้ว เราเชื่อว่าอนาคตของ Proton VPN จะสดในแน่นอน ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป พวกเขามีศักยภาพที่จะกลายเป็นผู้นำ VPN ในอนาคตอันใกล้นี้