10 VPN สำหรับ Hulu ที่ดีที่สุดในปี 2023
- VPN สำหรับ Hulu ที่ดีที่สุด – การวิเคราะห์เต็มรูปแบบ (อัปเดตใน 2023)
- ExpressVPN — การสตรีมมิ่งอย่างลื่นไหลและเซิร์ฟเวอร์มากมายเพื่อรองรับการเข้าถึง Hulu อย่างง่ายดาย
- CyberGhost — เซิร์ฟเวอร์พิเศษสำหรับปลดบล็อก Hulu อย่างไม่ยุ่งยาก
- Private Internet Access — เซิร์ฟเวอร์มากมายสำหรับใช้ดู Hulu จาก ประเทศไทย
- NordVPN — NordLynx จะสามารถเข้าถึง Hulu และรับชมในความชัดระดับ UHD ได้อย่างง่ายดาย
- Surfshark — เซิร์ฟเวอร์ที่มีประสิทธิภาพสำหรับผ่านการบล็อกภูมิภาคอันน่ารำคาญ
- ตารางเปรียบเทียบอย่างเร็ว: ฟีเจอร์ของ Hulu VPN
- เคล็ดลับในการเลือก VPN สำหรับ Hulu ที่ดีที่สุด
- คู่มือแบบเร็ว: วิธีปลดล็อก Hulu ใน 3 ขั้นตอนง่าย ๆ
- คำถามพบบ่อยเกี่ยวกับ VPN Hulu ที่ดีที่สุด
- รับบริการ VPN Hulu ที่ดีที่สุดวันนี้เลย!
Hulu นั้นใช้การบล็อกภูมิภาคที่มีความแน่นหนา — การจะหา VPN ที่ช่วยให้คุณเข้าถึงเว็บไซต์นี้ได้ จากประเทศไทย เป็นเรื่องที่มีความท้าทาย VPN หลายรายต่างก็ไม่สามารถปลดบล็อก Hulu ได้เนื่องจากมันมีเครือข่ายที่จำกัดในสหรัฐอเมริกา หรืออาจจะเป็นเพราะพวกเขาถูกเปิดเผยตำแหน่งที่แท้จริง ถึงแม้จะมีอันที่ใช้งานได้ แต่บางครั้งมันก็ช้าเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณอยากจะสตรีมดูกีฬา หรือรายการสดด้วย Hulu + Live TV
เราและทีมงานได้ทำการทดสอบมา 90+ VPN เพื่อค้นหา Hulu VPN ที่ดีที่สุด พวกเราได้คัดสรรมาเฉพาะตัวที่ปลดบล็อกแพลตฟอร์มนี้ได้อย่างมีความเสถียรพร้อมมีความเร็วในการสตรีมสูง
จากทั้งหมดนี้ ExpressVPN คือตัวเลือกอันดับหนึ่งของเรา มันมีความเร็วสูงที่สุด เหมาะสำหรับใช้ดูรายการโปรดบน Hulu ความชัดระดับ Ultra HD ก็ไม่มีปัญหา แถมมันยังมีเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ที่สหรัฐอเมริกาขนาดใหญ่ (รวมถึงญี่ปุ่นด้วย) ทำให้คุณสามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มได้อย่างมีความเสถียร แถมมันยังมาพร้อมกับการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน ดังนั้นคุณจึงสามารถ ทดลองใช้ ExpressVPN กับ Hulu ได้อย่างไม่มีความเสี่ยง หากคุณไม่พอใจการใช้งาน การขอคืนเงินนั้นก็ไม่ยุ่งยากเลย
ไม่ค่อยมีเวลาใช่ไหม? นี่คือ VPN ที่ดีที่สุดสำหรับ ใช้เข้าถึง Hulu จาก ประเทศไทย ปี 2023
- ExpressVPN — การเชื่อมต่อความเร็วสูงสำหรับใช้ดู Hulu ในความชัดระดับ Ultra HD พร้อมเซิร์ฟเวอร์สหรัฐอเมริกามากมายสำหรับการเข้าถึงเว็บไซต์และแอปที่มีความเสถียร
- CyberGhost — เซิร์ฟเวอร์พิเศษที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ปลดบล็อก Hulu โดยเฉพาะ และมีอินเทอร์เฟซที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้งานมือใหม่ แต่แพลนระยะสั้นนั้นมีราคาค่อนข้างแพง
- Private Internet Access — เซิร์ฟเวอร์มากมาย ดังนั้นคุณจึงสามารถหาตัวที่เหมาะกับ Hulu ได้แน่ แต่ไม่ใช่ทุกเซิร์ฟเวอร์ที่จะใช้งานได้
- NordVPN — NordLynx นั้นมีความเร็วสูงมาก ทำให้คุณสามารถสตรีมในความชัดระดับ UHD ได้ แต่การเชื่อมต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์อาจใช้เวลานานในบางครั้ง
- Surfshark — สามารถหลบหลีกการบล็อกภูมิภาคได้อย่างมีความเสถียร แต่ไม่มีเซิร์ฟเวอร์พิเศษสำหรับใช้สตรีมมิ่ง
VPN สำหรับ Hulu ที่ดีที่สุด – การวิเคราะห์เต็มรูปแบบ (อัปเดตใน 2023)
1. ExpressVPN — การสตรีมมิ่งอย่างลื่นไหลและเซิร์ฟเวอร์มากมายเพื่อรองรับการเข้าถึง Hulu อย่างง่ายดาย
ทดสอบใน ตุลาคม 2023 ทดลองใช้งานได้อย่างปลอดภัย 30 วัน
- การเชื่อมต่อความเร็วสูงและแบนด์วิดท์ไม่จำกัดสำหรับการสตรีมมิ่งอย่างไร้รอยต่อบน Hulu
- 24 เซิร์ฟเวอร์ในสหรัฐอเมริกาและอีก 4 แห่งในญี่ปุ่นเพื่อให้คุณหาเซิร์ฟเวอร์สำหรับ Hulu ได้โดยง่าย
- 8 การเชื่อมต่อพร้อมกัน สำหรับดู Hulu บนหลายอุปกรณ์
- ใช้งานได้กับ: Hulu, Netflix สหรัฐอเมริกา (และอีกหลายประเทศ), Disney+, Amazon Prime Video, HBO Max, BBC iPlayer, และอื่น ๆ
- ใช้งานเข้ากันได้กับ: Windows, macOS, iOS, Android, อุปกรณ์ Fire, เบราวเซอร์, เครื่องเล่นเกม, เราเตอร์, สมาร์ททีวี และอื่น ๆ
- แอปและส่วนขยายเป็นภาษาไทย
- ไลฟ์แชทเป็นภาษาไทย
ExpressVPN นั้นมีความเร็วมาก ๆ สำหรับใช้สตรีมมิ่งในความชัดสูงสุด เราได้ความเร็วเฉลี่ยอยู่ที่ 68.29 Mbps ซึ่งก็ตกไปแค่ 7% จากความเร็วปกติที่ 73.6 Mbps นี่เป็นความเร็วที่สูงถึงสองเท่าของขั้นต่ำที่ต้องใช้ดูในความชัดระดับ Ultra HD โดยปกติแล้วความเร็วตอนใช้ VPN ของคุณจะตกลง 10–20% ดังนั้นนี่จึงเป็นเรื่องที่น่าประทับใจมาก เราไม่เจออาการแลคหรือการบัฟเฟอร์เลยตอนที่เราดู Life & Beth ระหว่างที่เราทำการทดสอบ
เราสามารถใช้ตำแหน่งในสหรัฐอเมริกาของ ExpressVPN เข้าถึง Hulu ได้อย่างไม่มีปัญหา24 แต่เราก็ยังได้ลองติดต่อไปหาฝ่ายบริการลูกค้า 24/7 เพื่อสอบถามว่าเซิร์ฟเวอร์ใช้งานได้ดีที่สุดสำหรับ Hulu และตัวแทนก็แนะนำที่เดนเวอร์กับแอตแลนต้า ทั้งสองเซิร์ฟเวอร์นี้เข้าถึง Hulu ได้ในทันที (แต่เซิร์ฟเวอร์อื่นก็เช่น ๆ กัน) ดังนั้นถึงแม้ว่าคุณจะเผชิญกับปัญหาใด ๆ ก็มีฝ่ายบริการลูกค้าคอยให้บริการอยู่ตลอด
ExpressVPN MediaStreamer จะทำให้คุณสามารถดู Hulu บนอุปกรณ์ที่ไม่รองรับ VPN ได้ อย่างเช่น สมาร์ททีวี, อุปกรณ์สตรีมมิ่ง และเครื่องเล่นเกม การตั้งค่า MediaStreamer นั้นก็เป็นเรื่องง่ายเช่นกัน — ที่เราต้องทำก็แค่กรอกรหัสเข้าไปบนการตั้งค่าเครือข่าย Apple TV ของเรา ภายในไม่ถึง 5 นาที เราก็สามารถดู Hulu US ได้บนทีวีจอใหญ่ของเราแล้ว
ข้อเสียเดียวก็คือมันมีราคาแพงกว่า VPN รายอื่น ๆ — โดยมันมีแพลนราคาเริ่มต้นที่ $6.67/เดือน อย่างไรก็ตาม ExpressVPN นั้นมีข้อเสนอลดราคาและมีคูปองให้คุณใช้ประหยัดเงินได้ ตอนที่เราสมัครใช้งาน 12 เดือน เราก็ได้แถมมาให้ใช้อีก 3 เดือนฟรี ในทุก ๆ แพลนนั้นมีฟีเจอร์ที่เหมือนกันหมด ดังนั้นแพลนที่คุ้มค่าที่สุดก็คือแพลนแบบระยะยาว — นี่จะทำให้คุณประหยัดเงินได้มากที่สุด
คุณยังสามารถ ทดลองใช้ ExpressVPN กับ Hulu ได้อย่างไม่มีความเสี่ยง เพราะมีการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน หากคุณใช้แล้วไม่ชอบ คุณก็สามารถขอเงินคืนได้อย่างง่ายดาย เราได้ทดสอบเรื่องนโยบายนี้หลังจากที่ใช้งานไปแล้ว 27 วัน ด้วยการติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าผ่านไลฟ์แชท 24/7 ทางตัวแทนก็ถามเกี่ยวกับการใช้บริการของเรา จากนั้นก็รีบทำการอนุมัติคำขอคืนเงินให้เราอย่างรวดเร็ว เราได้เงินคืนเข้าบัญชีภายในเวลา 3 วัน เราจึงรู้สึกพึงพอใจมากที่พวกเขาทำตามที่รับประกัน
2. CyberGhost — เซิร์ฟเวอร์พิเศษสำหรับปลดบล็อก Hulu อย่างไม่ยุ่งยาก
- เซิร์ฟเวอร์พิเศษสำหรับสตรีมมิ่งที่จะปลดบล็อก Hulu ได้อย่างสม่ำเสมอ
- แอปที่ใช้งานง่าย สำหรับการเชื่อมต่อที่รวดเร็วเพื่อดูรายการโปรดของคุณได้ในทันที
- 7 การเชื่อมต่อพร้อมกัน สำหรับดู Hulu ที่บ้านหรือระหว่างเดินทาง
- ใช้งานได้กับ: Hulu, Netflix US, Disney+ , Amazon Prime Video , HBO Max , BBC iPlayer และอื่น ๆ
- ใช้งานเข้ากันได้กับ: Windows, macOS, iOS, Android, อุปกรณ์ Fire, เราเตอร์, สมาร์ททีวี และอื่น ๆ
CyberGhost นั้นมีเซิร์ฟเวอร์พิเศษสำหรับใช้ดู Hulu อยู่ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งมันจะช่วยให้คุณสามารถสตรีมมิ่งได้ในทันที เราเปิดเจอมันอย่างง่ายดายในแอปตอนที่เราคลิก "For Streaming (สำหรับสตรีมมิ่ง)" นี่ทำให้เราเชื่อมต่อและดูรายการ Hulu ของสหรัฐอเมริกา ได้ภายในไม่กี่วินาที คุณสามารถบันทึกและตั้งชื่อเซิร์ฟเวอร์ Hulu ที่เร็วที่สุดสำหรับคุณเพื่อใช้เข้าถึงอย่างรวดเร็วในอนาคตได้ด้วย
นอกจากนี้มันยังมีอินเทอร์เฟซที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน ซึ่งก็เหมาะสำหรับผู้ใช้งาน VPN มือใหม่ ภายในไม่ถึง 2 นาที เราก็สามารถติดตั้งและเข้าถึง Hulu บนมือถือ Android ของเราได้แล้ว ด้วยการเชื่อมภายใน 1 คลิก คุณก็จะสามารถเข้าถึง Hulu ได้ในทันทีเนื่องจากมันจะทำการเชื่อมต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่คุณใช้งานครั้งล่าสุด ฟีเจอร์ Smart DNS นั้นก็ใช้งานง่ายมาก และมันก็มีคู่มือสำหรับติดตั้งใช้งานอยู่บนเว็บไซต์ มันมี Smart DNS เฉพาะสำหรับ Hulu ดังนั้นภายในไม่กี่นาที เราก็สามารถสตรีมมิ่ง Hulu ตรงจาก Apple TV ของเราได้แล้ว
เซิร์ฟเวอร์นั้นมีความเร็วสูงมาก ดังนั้นคุณสามารถสตรีมในความชัดระดับ Ultra HD ได้ ตอนที่เราทดสอบเซิร์ฟเวอร์ของ นิวยอร์ก บอสตัน และแอลเอ ความเร็วเฉลี่ยของเราก็อยู่ที่ 61.28 Mbps ซึ่งตกลงเพียง 16% เท่านั้น ตอนที่เราทดสอบของญี่ปุ่น ความเร็วของเราตกลงไปอยู่ราว ๆ 27 Mbps แต่ละตอนที่เปิดดูก็โหลดนานขึ้นไม่กี่วินาทีแต่มันไม่มีอาการแลคเลย
ข้อเสียเดียวของ CyberGhost ก็คือมันจะใช้งานได้ประเทศจีนกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หรือประเทศอื่น ๆ ที่ทำการเซ็นเซอร์เนื้อหาบนอินเทอร์เน็ตไม่ได้ ซึ่งจะต่างกับ ExpressVPN อย่างไรก็ตาม มันสามารถหลบหลีกการบล็อกภูมิภาคได้อย่างเสถียรในอีกหลายประเทศ
คุณสามารถ รับบริการจาก CyberGhost ได้ในราคาเพียง $2.11/เดือน เมื่อคุณสมัครใช้งานระยะยาว นี่จะมาพร้อมกับการรับประกันคืนเงินยาวถึง 45 วัน แพลนระยะสั้นจะมีราคาแพงกว่าเล็กน้อย และก็มีการรับประกันคืนเงินเพียง 14 วัน ดังนั้นเราจึงแนะนำให้ทำการสมัครใช้งานแพลนระยะยาวดีกว่า
การรับประกันคืนเงินนั้นก็มีความน่าเชื่อถือ และสามารถขอคืนเงินได้อย่างง่ายดาย ตอนที่เราทดสอบนโยบายนี้ (หลังจากที่ใช้ไป 23 วัน) เราก็ได้ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าผ่านไลฟ์แชท 24/7 เพื่อขอคืนเงิน หลังจากที่เขาถามคำถามไม่กี่ข้อเกี่ยวกับความพึงพอใจของเราแล้ว ทางตัวแทนก็ได้อนุมัติคำขอให้กับเรา — ไม่มีการรบเร้าให้อยู่ต่อ เราได้รับเงินคืนหลังจากนั้นเป็นเวลา 5 วัน
3. Private Internet Access — เซิร์ฟเวอร์มากมายสำหรับใช้ดู Hulu จาก ประเทศไทย
- 29,650 เซิร์ฟเวอร์ทั่วโลก รวมถึงเซิร์ฟเวอร์ในญี่ปุ่น และ 53 ในสหรัฐอเมริกาสำหรับใช้ปลดบล็อก Hulu อย่างง่ายดาย
- ความเร็วดีสำหรับการสตรีมมิ่งที่ลื่นไหล
- ไม่จำกัด การเชื่อมต่อพร้อมกัน เหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่
- ใช้งานได้กับ: Hulu, Netflix, Disney+, Amazon Prime Video, HBO Max, BBC iPlayer และอื่น ๆ
- ใช้งานเข้ากันได้กับ: Windows, macOS, iOS, Android, Linux, เราเตอร์, สมาร์ททีวี และอื่น ๆ
- แอปและส่วนขยายเป็นภาษาไทย
Private Internet Access นั้นเป็น VPN ที่มีเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ใหญ่ที่สุดในรายการนี้ มันมี 53 เซิร์ฟเวอร์สหรัฐอเมริกาและ 29,650 เซิร์ฟเวอร์รอบโลก ดังนั้นคุณจะสามารถเข้าถึงเนื้อหาได้ทั่วโลก (แถมเครือข่ายที่คนไม่แย่งกันใช้ก็จะมีความเร็วดีกว่า) มันยังมีเซิร์ฟเวอร์พิเศษสำหรับสตรีมมิ่งอยู่ในสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นเพื่อให้เข้าถึง Hulu ได้ เราสามารถเข้าถึง Hulu ได้อย่างไม่มีปัญหาตอนที่เราทำการทดสอบเซิร์ฟเวอร์สำหรับสตรีมมิ่งในสหรัฐอเมริกาตะวันออก
มันทั้งเร็วทั้งเสถียร เหมาะสำหรับใช้ดูรายการโปรดของคุณบน Hulu โดยที่จะไม่ถูกรบกวน ตอนที่เราทำการทดสอบตำแหน่งที่แอตแลนต้า ชิคาโก้ และ วอชิงตัน เราก็ได้ความเร็วเฉลี่ยอยู่ที่ 32 Mbps ถึงแม้ว่ามันจะไม่เร็วเท่ากับ ExpressVPN แต่เราก็สามารถสตรีมมิ่งในความชัดระดับ HD ได้อย่างไม่มีปัญหา
นอกจากนี้แล้ว PIA ยังอนุญาตให้ผู้ใช้งานสามารถเชื่อมต่อได้พร้อมกันไม่จำกัดจำนวนอุปกรณ์อีกด้วย นี่เป็นเรื่องดีมากสำหรับครอบครัวใหญ่ ๆ หรือถ้าคุณเป็นคนที่ใช้อุปกรณ์หลายอุปกรณ์ในการดู Hulu ตอนที่เราทำการทดสอบนั้น เราก็ใช้ VPN ทั้งบน Android และแล็ปท็อป Windows ในการดู Hulu นี่ไม่ได้ทำให้เกิดอาการช้าหรือการรบกวนใด ๆ ระหว่างการสตรีมมิ่งบนแต่ละอุปกรณ์เลย
เราต้องใช้เวลามากกว่านิดหนึ่งในการค้นหาเซิร์ฟเวอร์ที่ดีที่สุดสำหรับ Hulu บน PIA อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ของมันใหญ่มาก มันก็ไม่ได้ใช้เวลานานมากในการค้นหาเซิร์ฟเวอร์ที่มีความเร็วและเสถียร ถ้าจะให้ง่ายที่สุดก็ให้หาจากเซิร์ฟเวอร์สำหรับสตรีมมิ่ง
แพลนที่มีระยะยาวที่สุดของ PIA นั้นมีราคาเพียง $2.11/เดือน และมันก็มีแถมเดือนให้ใช้ฟรีอีกด้วย แพลนระยะยาวและแพลนระดับกลางนั้นมีแอนตี้ไวรัสของ PIA และ Boxcryptor ให้ใช้ด้วย แพลนระยะสั้นที่สุดของมันนั้นมีราคาค่อนข้างแพง ดังนั้นเราจึงแนะนำให้เลือกแพลนระยะยาวจะดีกว่า
ด้วยการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน ของมัน คุณจะสามารถ ทดลองใช้ PIA กับ Hulu ได้ฟรี เราทดสอบเรื่องนี้มาแล้วหลังจากที่ใช้งานไป 22 วัน และเราก็ติดต่อไปผ่านทางไลฟ์แชท 24/7 ทางตัวแทนก็ถามว่าทำไมเราจึงขอยกเลิก แต่เขาก็อนุมัติคำขอให้เราในทันที เราได้รับเงินคืนหลังจากนั้น 6 วัน
4. NordVPN — NordLynx จะสามารถเข้าถึง Hulu และรับชมในความชัดระดับ UHD ได้อย่างง่ายดาย
- 5,880 เซิร์ฟเวอร์ใน 60 ประเทศ ทำให้คุณสามารถเข้าถึงเว็บไซต์ แอป และเกมที่ถูกบล็อกภูมิภาคได้มากมาย
- ฟีเจอร์ความปลอดภัยดีเลิศพร้อมนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลที่ผ่านการพิสูจน์แล้วจะช่วยปกป้องคุณบนโลกออนไลน์
- เชื่อมต่อได้พร้อมกัน 6 อุปกรณ์
- ใช้งานได้กับ: Netflix, Disney+, HBO Max, BBC iPlayer, Hulu และอื่น ๆ
- ใช้งานเข้ากันได้กับ: Windows, macOS, Android, iOS, Linux, เบราว์เซอร์, เราเตอร์ และอื่น ๆ
NordVPN เป็น VPN ที่ดีมากไม่ว่าคุณจะกำลังจะต้องการสตรีมหรือต้องการจะปกป้องความเป็นส่วนตัวบนโลกออนไลน์ สิ่งที่ทำให้มันโดดเด่นสำหรับเราก็คือมันมีหมวดหมู่เซิร์ฟเวอร์ให้เลือกพิเศษเฉพาะสำหรับแต่ละกิจกรรมซึ่งก็ทำให้มันใช้งานง่าย มันยังเป็นผู้พัฒนาโปรโตคอลที่มีความปลอดภัยเป็นของตนเอง (NordLynx) ที่มีความเร็วดีจนน่าประทับใจสำหรับกิจกรรมที่ใช้แบนด์วิดท์สูง (เช่นสตรีมมิ่งหรือโหลด torrent) โดยที่ไม่ได้ลดเรื่องความปลอดภัยทางออนไลน์ลงไป
มันไม่มีเซิร์ฟเวอร์เฉพาะสำหรับสตรีมมิ่ง แต่คุณสามารถเลือกเซิร์ฟเวอร์ P2P หรือ Double VPN สำหรับการโหลด torrent หรือเพื่อเพิ่มความปลอดภัยได้ตามลำดับ เซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดนั้นจะถูกจัดเรียงตามประเทศ เราค้นพบระหว่างการทดสอบว่า การใช้งาน เซิร์ฟเวอร์ธรรมดาก็สามารถปลดบล็อกเว็บไซต์สตรีมมิ่งยอดนิยมได้เป็นอย่างดี วิดีโอของเราโหลดเสร็จอย่างรวดเร็ว และเราก็ไม่เจอปัญหาเรื่องการบัฟเฟอร์ในขณะที่ดูเลย
NordVPN นั้นยังเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับใช้หลบหลีกการจำกัดการเข้าถึงเครือข่าย เซิร์ฟเวอร์ที่ผ่านการทำ obfuscation ของมันนั้นถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้ในประเทศที่ VPN ถูกจำกัดอย่างเช่นจีนและรัสเซีย เซิร์ฟเวอร์เหล่านี้ยังมีประโยชน์ด้วยถ้าคุณพยายามจะเข้าถึงเว็บไซต์ที่ถูกบล็อกเพราะไฟร์วอลล์เครือข่าย เช่นที่โรงเรียนหรือที่ทำงาน
มันมีฟีเจอร์ความปลอดภัยอื่น ๆ ที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครอีกด้วย Threat Protection จะช่วยป้องกันตัวติดตาม มัลแวร์ และเว็บไซต์ที่มีไวรัส แถมยังช่วยกันโฆษณาด้วย ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้บล็อกโฆษณา YouTube แต่มันสามารถบล็อกโฆษณาในเกมบน Android ของเราและป๊อปอัพบนเบราว์เซอร์ได้ อีกฟีเจอร์ที่โดดเด่นก็คือเซิร์ฟเวอร์ Onion ซึ่งทำให้คุณสามารถเชื่อมต่อตรงไปยังเครือข่าย Tor เพื่อเพิ่มความปลอดภัยได้ รวมเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดนี้เข้ากับการป้องกันการรั่วไหลและ kill switch ที่บิ้วท์อินมาในตัวจะช่วยรักษาความเป็นส่วนตัวให้คุณได้อย่างตลอดเวลา
ปัญหาใหญ่ที่สุดสำหรับเราก็คือบางครั้งมันใช้เวลานานมากในการเชื่อมต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์ของ NordVPN มีครั้งหนึ่งที่เราต้องปิดเปิดแอปใหม่เพื่อลองอีกครั้ง ท้ายสุดแล้วเราก็สามารถเชื่อมต่อได้ทุกครั้ง ดังนั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่แต่เป็นเรื่องที่น่ารำคาญมากกว่า
NordVPN มีราคาสมัครสมาชิกน่าสนใจเริ่มต้นที่ $2.99/เดือน คุณยังสามารถขอรับ IP เฉพาะโดยมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมได้ด้วย ซึ่งก็จะมีประโยชน์ถ้าคุณพยายามจะหลบหลีกการแบน IP ที่เว็บไซต์สตรีมมิ่งทั่วไปมักจะใช้งาน
มันยังมีการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วันสำหรับทุกแพลนอีกด้วย ดังนั้นคุณจึงสามารถทดลองใช้ NordVPN ได้ฟรีโดยไม่มีความเสี่ยงเรื่องค่าใช้จ่าย เราขอเงินคืนผ่านไลฟ์แชท 24/7 หลังจากที่เราใช้งานมาเกือบเดือน และเราก็ได้รับเงินคืนตามที่รับประกัน ใช้เวลาแค่ไม่กี่วันเราก็ได้รับเงินคืนเต็มจำนวน
5. Surfshark — เซิร์ฟเวอร์ที่มีประสิทธิภาพสำหรับผ่านการบล็อกภูมิภาคอันน่ารำคาญ
- 3,200 fast เซิร์ฟเวอร์ใน 100 ประเทศ ทำให้คุณสามารถเข้าถึงเว็บไซต์ที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว
- แอปใช้งานง่ายสำหรับผู้ใช้งานทุกระดับ
- เชื่อมต่อได้พร้อมกัน ไม่จำกัด อุปกรณ์
- ใช้งานได้กับ: Netflix, Disney+, HBO Max, BBC iPlayer, Hulu และอื่น ๆ
- ใช้งานเข้ากันได้กับ: Windows, macOS, Android, iOS, Linux, เบราว์เซอร์, เราเตอร์ และอื่น ๆ
Surfshark มี3,200 เซิร์ฟเวอร์ใน 100 ประเทศ และมันก็มีความเร็วที่เสถียรไม่ว่าจะอยู่ไกลขนาดไหน ระหว่างการทดสอบของเรานั้น เซิร์ฟเวอร์ในพื้นที่ใกล้เคียงให้ความเร็วพอ ๆ กับความเร็วฐานของเราเลย เราสามารถสตรีม โหลด torrent และเล่นเกมได้อย่างไม่ถูกรบกวนและไม่แลคเลย ความเร็วทั่วไปที่ยอมรับได้จะตกลงไปประมาณ 20% และถ้าใช้ Surfshark ถึงแม้จะใช้เซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ห่างไกลมันก็จะตกลงไปน้อยกว่านั้นอีก
เมื่อพูดถึงเรื่องความปลอดภัยแล้ว มันมีการเข้ารหัส 256-bit AES ระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมซึ่งมีความปลอดภัยสูงที่สุด เพื่อให้แน่ใจว่าทราฟฟิคของคุณจะถูกเข้ารหัสตลอดเวลา มันจะมี kill switch สำหรับแอปทั้งหมด ซึ่งคุณสามารถเปิดใช้งานได้ในเมนูการตั้งค่าด้วยการคลิกแค่ 1 ครั้ง เราได้ทำการทดสอบโดยการเชื่อมต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์แบบติดต่อกัน อินเทอร์เน็ตของเราจะตัดไปเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ระหว่างที่เปลี่ยนเซิร์ฟเวอร์ แต่ที่อยู่ IP ของเราก็ไม่ถูกตรวจจับหรือถูกเปิดเผยให้เว็บไซต์สตรีมมิ่งรู้เลย
Surfshark นั้นสามารถใช้งานกับเครือข่ายและประเทศที่ถูกจำกัดอย่างรุนแรงเช่นในจีนได้ มันมาพร้อมกับฟีเจอร์พิเศษที่จะทำ obfuscation ให้กับการเชื่อมต่อ VPN ของคุณอย่าง Camouflage และ NoBorders เพื่อเพิ่มความปลอดภัยเข้าไปอีกขั้น คุณยังสามารถใช้งาน MultiHop ซึ่งจะเพิ่มการเข้ารหัสของคุณไปอีกขั้น
แอปของมันนั้นใช้งานง่ายมาก ๆ และก็จัดระเบียบมาเป็นอย่างดี ดังนั้นคุณจะไม่มีปัญหาเรื่องการใช้งานเลย ถึงแม้ว่าคุณจะเป็นมือใหม่ด้าน VPN ก็ตาม มีปุ่มเชื่อมต่ออย่างรวดเร็วให้กด ซึ่งมันจะเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่เร็วที่สุดในประเทศหรือต่างประเทศที่ใกล้ที่สุดเพื่อให้คุณได้ความเร็วสูงสุด แต่คุณก็สามารถเลือกตำแหน่งที่คุณต้องการเองได้ด้วยเช่นกัน เราชอบที่มันเปิดให้เราสามารถตั้งรายการโปรดสำหรับตำแหน่งที่ใช้บ่อยที่สุดเพื่อให้เข้าถึงได้ง่ายในครั้งถัดไป
อย่างเดียวที่เราไม่ชอบเกี่ยวกับ Surfshark ก็คือมันตั้งอยู่ในเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพันธมิตรแชร์ข้อมูลที่ชื่อ 14 Eyes อย่างไรก็ตาม มันมีนโยบายการไม่บันทึกข้อมูล หมายความว่ามันไม่เก็บข้อมูลใด ๆ ของคุณเอาไว้ เซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดของมันนั้นเป็นแบบ RAM-only ดังนั้นข้อมูลของคุณจะถูกนำออกทุกครั้งที่มีการปิดเปิดใหม่ นี่หมายความว่ามันจะไม่สามารถแบ่งปันข้อมูลใด ๆ ให้กับบุคคลที่สามได้ถึงแม้ว่าจะมีคนมาขอก็ตาม
คุณสามารถ สมัครใช้งาน Surfshark ระยะยาวได้ในราคาเพียง $2.69/เดือน เราแนะนำตัวเลือก Surfshark One ซึ่งจะมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเล็กน้อย มันจะมีแอนตี้ไวรัส, Search (search engine ส่วนตัว), และ Alert (ฟีเจอร์ที่เตือนคุณหากข้อมูลส่วนตัวของคุณเกิดการรั่วไหล)
แพลนทั้งหมดนั้นมีการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน ถ้าบริการนี้ไม่ตรงใจกับความคาดหวังของคุณ คุณก็สามารถขอเงินคืนได้อย่างง่ายดาย เราได้ทำการทดสอบดูแล้วด้วยการติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าผ่านไลฟ์แชท 24/7 หลังจากที่คุยกับตัวแทนอยู่ไม่นาน เราก็ได้รับเงินคืนทั้งหมดภายใน 4 วัน
6. IPVanish — การเชื่อมต่อที่ไม่จำกัดจำนวน สำหรับดู Hulu ได้บนทุกอุปกรณ์ของคุณ
- การเชื่อมต่อที่ไม่จำกัดจำนวน สำหรับสตรีม Hulu ได้บนทุกอุปกรณ์เท่าที่คุณต้องการ
- ความเร็วสูงสำหรับสตรีม Hulu ในความชัดระดับ HD อย่างไม่ถูกรบกวน
- ใช้งานได้กับ: Hulu, Netflix, Disney+, Amazon Prime Video, HBO Max, BBC iPlayer และอื่น ๆ
- ใช้งานเข้ากันได้กับ: Windows, macOS, iOS, Android, Linux, เราเตอร์, สมาร์ททีวี และอื่น ๆ
IPVanish นั้นเปิดให้เชื่อมต่อได้ไม่จำกัดต่อบัญชี ดังนั้นคุณจึงสามารถดู Hulu ได้บนทุกอุปกรณ์ที่คุณต้องการ เราได้ทำการทดสอบเรื่องนี้ด้วยการ ดู Hulu บน แล็ปท็อป Windows, iPhone และ iPad พร้อมกัน 3 เครื่อง เรารู้สึกประทับใจมากที่มันไม่มีอาการช้าหรือแลคใด ๆ เลย นอกจากนี้มันยังมีประโยชน์มากถ้าคุณมีครอบครัวใหญ่ เพราะคุณจะสามารถแชร์บัญชีใช้พร้อมกันได้
ความเร็วของมันดีพอที่จะทำให้เราสามารถดู Hulu อย่างมีความเสถียรได้ เราไม่เจอการบัฟเฟอร์เลย และเราก็ไม่ต้องรอโหลดนาน ๆ ระหว่างเปลี่ยนตอน เราได้ทำการทดสอบความเร็วจาก 3 เซิร์ฟเวอร์ในนิวยอร์ก, ชิคาโก้ และเดนเวอร์ โดยที่ความเร็วในการดาวน์โหลดของเราก็ไม่เคยตกลงไปกว่า 38.7 Mbps เลย การจะสตรีมมิ่งในความชัดระดับ HD นั้นต้องใช้ความเร็วเพียง 5 Mbps ดังนั้นนี่จึงเป็นความเร็วที่มากพอ
ข้อเสียหนึ่งของ IPVanish ก็คือมันไม่มีเซิร์ฟเวอร์พิเศษสำหรับสตรีมมิ่ง ดังนั้นเราก็เลยต้องใช้เวลาอยู่พอตัวในการหาเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้งานได้ โชคยังดี ที่มันมีฝ่ายให้บริการลูกค้า 24/7 ดังนั้นคุณก็จึงสามารถส่งข้อความไปสอบถามพวกเขาได้ว่าเซิร์ฟเวอร์ไหนใช้งานกับ Hulu ได้ดีที่สุด ตอนที่เราติดต่อสอบถามเรื่องนี้ดู เราก็สามารถเข้าถึง Hulu ได้ในครั้งแรกที่ลองเลย
แพลนระยะยาวที่สุดนั้นก็คุ้มค่ามาก ราคาเริ่มต้นที่ $2.99/เดือน และมันก็มาพร้อมกับซอฟต์แวร์ป้องกันมัลแวร์และแรนซัมแวร์แถมให้อีกด้วย มันจะไม่มีให้ใช้งานในแพลนระยะสั้น ดังนั้นคุณจะได้รับบริการที่คุ้มค่ากว่าถ้าคุณสมัครใช้งานแพลนระยะยาว
ด้วยการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน คุณจะสามารถ ทดลองใช้ IPVanish ได้อย่างไม่มีความเสี่ยง มันง่ายมาก ๆ ที่จะขอคืนเงิน เราได้ลองขอมาแล้วหลังจากที่ใช้งานไป 28 วัน เราไม่ต้องคุยกับไลฟ์แชท 24/7 หรือให้เหตุผลอะไรเลยด้วย เราแค่ต้องล็อกอินเข้าไปในบัญชี ไปยังส่วน "Subscriptions (การสมัครสมาชิก)" และก็คลิก "I wish to cancel my subscription (ฉันต้องการขอยกเลิกการสมัครสมาชิก)" หลังจากที่ผ่านไป 4 วัน เราก็ได้รับเงินคืน
7. PrivateVPN — เครือข่ายขนาดเล็กแต่มีความเสถียรสำหรับเพลิดเพลินกับ Hulu ในความชัดระดับ Ultra HD
- การเชื่อมต่ออันรวดเร็วและแบนด์วิดท์ที่เปิดให้ใช้ได้ไม่จำกัดสำหรับการสตรีมมิ่งที่ไม่มีคำว่าแลค
- Simple mode (โหมดเรียบง่าย) ของมันจะทำให้มือใหม่ก็สามารถปลดบล็อก Hulu ได้
- 12 เซิร์ฟเวอร์ในตำแหน่งและอีก 1 แห่งในญี่ปุ่นจะทำให้คุณปลดบล็อก Hulu ได้อย่างง่ายดาย
- ใช้งานได้กับ: Hulu, Netflix, Disney+, Amazon Prime Video, HBO Max, BBC iPlayer และอื่น ๆ
- ใช้งานเข้ากันได้กับ: Windows, macOS, iOS, Android, Linux, เราเตอร์, สมาร์ททีวี และอื่น ๆ
PrivateVPN นั้นมีเซิร์ฟเวอร์ที่มีความเสถียรและก็มีความเร็วดี ระหว่างการทดสอบของเรา ทุกแห่งในสหรัฐอเมริกานั้นก็สามารถใช้งานกับ Hulu ได้ และความเร็วในการดาวน์โหลดของเราก็เฉลี่ยอยู่ที่ 47.22 Mbps ตกไป 35% เราดูเรื่อง Only Murders in the Building ไป 3 ตอน และก็ไม่มีการติดอยู่ตรงหน้าโหลดใด ๆ เลยทั้งสิ้น คุณต้องใช้อย่างน้อย 25 Mbps สำหรับการสตรีมในความชัดระดับ Ultra HD ดังนั้นความเร็วของ PrivateVPN นั้นก็เร็วเกินพอ
Simple Mode นั้นเป็นอินเทอร์เฟซที่ทำให้การใช้แอปกับ Hulu นั้นกลายเป็นเรื่องแสนจะง่าย ด้วยอินเทอร์เฟซนี้ เราแค่ต้องเลือกเซิร์ฟเวอร์ในสหรัฐอเมริกาและก็คลิก "เชื่อมต่อ" แอปก็จะเลือกโปรโตคอลความปลอดภัยและการตั้งค่าที่ดีที่สุด ส่วนเราก็สามารถเริ่มสตรีมได้ในทันที อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณเป็นผู้ใช้งานที่มีประสบการณ์ คุณก็สามารถเปลี่ยนไป Advanced Mode (โหมดขั้นสูง) เพื่อทำการกำหนดค่า VPN อย่างเต็มรูปแบบได้เช่นกัน
น่าเสียดายที่เครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ของมันไม่ใหญ่เท่า VPN อื่น ๆ ในรายการนี้ อย่างไรก็ตาม เราพบว่าของที่มีอยู่ในสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นของมันนั้นก็มีความเร็วและความเสถียรดี ถึงแม้ถ้าเราเจอสถานการณ์ที่โหลดช้าจากเซิร์ฟเวอร์หนึ่ง เราก็สามารถเปลี่ยนไปอีกเซิร์ฟเวอร์ซึ่งช่วยเพิ่มความเร็วขึ้นได้
แพลนระยะยาวของ PrivateVPN นั้นมีราคาเพียง $2/เดือน และมันก็ยังมีแพลนแบบ 1 เดือน และ 3 เดือน ด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ก็มีฟีเจอร์เหมือนกันทั้งหมดและก็สามารถเชื่อมต่อได้ 10 อุปกรณ์ ข้อแตกต่างเดียวก็คือเรื่องของราคา ดังนั้นเราจึงเลือกใช้แพลนระยะยาวที่สุดซึ่งมีลดราคา 85% และก็มีความคุ้มค่ามากที่สุด
คุณสามารถ ทดลองใช้ PrivateVPN ได้อย่างไม่มีความเสี่ยงเนื่องจากมันมีการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน ซึ่งคุณสามารถเชื่อใจได้ เราได้ทดสอบมาแล้วว่าการรับประกันของพวกเขานั้นเชื่อถือได้จริง โดยที่เราได้ทำการติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าเพื่อขอคืนเงิน ทางตัวแทนได้สอบถามว่าทำไมเราจึงอยากที่จะยกเลิก และหลังจากที่เราบอกเหตุผลไปแล้ว พวกเขาก็ดำเนินการตามคำร้องให้เราอย่างรวดเร็ว เราได้รับการคืนเงินเข้าบัญชีภายในหนึ่งสัปดาห์
8. Proton VPN — สร้างโปรไฟล์สำหรับ Hulu เพื่อใช้เข้าถึงรายการโปรดของคุณได้อย่างรวดเร็ว
- โปรไฟล์แบบปรับแต่งเองสำหรับใช้เข้าถึง Hulu หรือเว็บไซต์สตรีมมิ่งอื่น ๆ อย่างรวดเร็ว
- 14 แห่งในสหรัฐอเมริกา และ 25 แห่งในญี่ปุ่น
- 10 การเชื่อมต่อพร้อมกันสำหรับแบ่งกันใช้ในครอบครัว
- ใช้งานได้กับ: Hulu, Netflix, Disney+, Amazon Prime Video, HBO Max, BBC iPlayer และอื่น ๆ
- ใช้งานเข้ากันได้กับ: Windows, macOS, iOS, Android, Linux, เราเตอร์, สมาร์ททีวี และอื่น ๆ
โปรไฟล์แบบปรับแต่งเองได้ของ Proton VPN นั้นทำให้คุณสามารถเข้าถึง Hulu ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย (รวมถึงแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งอื่น ๆ) ยกตัวอย่างเช่น เราได้สร้างโปรไฟล์ที่ชื่อว่า "Hulu" และก็ตั้งค่าให้มันเชื่อมต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์ในสหรัฐอเมริกาที่เร็วที่สุดโดยอัตโนมัติ นี่จะช่วยประหยัดเวลาให้เราไม่ต้องมานั่งค้นหาเซิร์ฟเวอร์จากรายการอันยืดยาว — คุณแค่คลิกไปที่โปรไฟล์ Hulu และคุณก็สามารถเริ่มสตรีมได้เลย
มันมี 14 เซิร์ฟเวอร์สหรัฐอเมริกา และอีกมากกว่า 25 แห่งในญี่ปุ่น ดังนั้นคุณจะสามารถเชื่อมต่อเพื่อดู Hulu ได้อย่างเสถียรในทุกครั้งอย่างแน่นอน เราได้ทำการทดสอบดู 5 แห่งในสหรัฐอเมริกา และเราก็สามารถเข้าถึงบัญชี Hulu ของเราได้อย่างไม่มีปัญหาใด ๆ เลย เซิร์ฟเวอร์ US-NY#517 ของมันทำให้เราสามารถเปิดดู Salem ได้ยาว ๆ — ตลอดการดูนั้น การเชื่อมต่อของเราก็ไม่ถูกรบกวนใด ๆ เลย
และมันก็ยังเชื่อมต่อได้มากถึง 10 อุปกรณ์ เพื่อเป็นการทดสอบ เราได้ทำการเชื่อมต่อแล็ปท็อป สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ตเข้ากับ VPN ระหว่างที่ทำแบบนี้ เราก็สังเกตเห็นว่ามันใช้เวลาราว ๆ 10 ถึง 20 วินาทีในการโหลดรายการ แต่หลังจากที่โหลดเสร็จแล้ว เราก็ไม่เจอปัญหาการบัฟเฟอร์เลย
เรารู้สึกผิดหวังเล็กน้อยที่ Proton VPN นั้นไม่มีฝ่ายบริการลูกค้าแบบไลฟ์แชท 24/7 เราต้องใช้ฟอร์มติดต่อเพื่อสอบถามเกี่ยวกับเซิร์ฟเวอร์ของ Hulu กว่าที่จะได้คำตอบก็รอกันยาวถึง 18 ชั่วโมง ซึ่งก็ไม่ค่อยดีนักเท่าไร แต่เราก็ไม่มีปัญหาในการเข้าถึง Hulu ตั้งแต่แรกแล้ว แถมเว็บไซต์ของมันก็ยังมีฐานข้อมูลที่ครอบคลุมด้วย
Proton VPN นั้นมีให้เลือกใช้ทั้งแพลนแบบจ่ายเงินและแพลนระดับฟรี อย่างไรก็ตาม แพลนระดับฟรีนั้นไม่รองรับการสตรีมมิ่ง ดังนั้นคุณจึงจะไม่สามารถใช้งานมันกับ Hulu ได้ แบบจ่ายเงินนั้นมีราคาเริ่มต้นที่ $4.99/เดือน และมันก็จะเปิดให้คุณเข้าถึงเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ได้อย่างไม่จำกัด สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้มากขึ้น และก็มีความเร็วที่สูงขึ้น
เนื่องจากมันมีการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน คุณจึงสามารถ ทดลองใช้ Proton VPN Plus กับ Hulu ได้อย่างไม่มีความเสี่ยง อย่างไรก็ตาม คุณจะสามารถขอคืนเงินได้เฉพาะในส่วนที่คุณยังไม่ได้ใช้งานเท่านั้น ดังนั้นคุณก็จะไม่ได้รับเงินคืนเต็มจำนวน เราได้ทำการทดสอบนโยบายนี้ดูด้วยการกรอกข้อมูลลงในฟอร์มติดต่อ และเราก็ได้รับเงินคืนหลังจากนั้น 8 วัน
9. Hotspot Shield — เซิร์ฟเวอร์พิเศษสำหรับสตรีมมิ่งซึ่งมีความเร็วสูง ใช้สตรีมมิ่งได้อย่างไม่ถูกรบกวน
- โปรโตคอล Catapult Hydra จะทำให้คุณสามารถสตรีมมิ่งได้ด้วยความเร็วสูงไม่มีคำว่าแลค
- เซิร์ฟเวอร์พิเศษสำหรับสตรีมมิ่งจะทำให้คุณสามารถปลดบล็อกแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งดัง ๆ อย่าง Hulu ได้
- 27 แห่ง เฉพาะแค่ในสหรัฐอเมริกา
- ใช้งานได้กับ: Hulu, Netflix, Disney+, Amazon Prime Video, HBO Max, BBC iPlayer และอื่น ๆ
- ใช้งานเข้ากันได้กับ Windows, macOS, iOS, Android, Linux และเราเตอร์
- แชทฝ่ายบริการลูกค้าได้ในภาษาไทย
Hotspot Shield นั้นมีความเร็วสูงมากสำหรับเรา โปรโตคอล Catapult Hydra ที่พัฒนาขึ้นเองของพวกเขานั้นมีความเร็วดีอย่างสม่ำเสมอสำหรับเรา ตอนที่ทำการทดสอบ ตอนที่เราเชื่อมต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่ถูกแนะนำในสหรัฐอเมริกา ความเร็วของเราก็อยู่ที่ 65.2 Mbps — ตกลงไป 11% เราสามารถดู Hulu ได้เป็นชั่วโมง ๆ ในความชัดระดับ HD โดยที่ไม่มีอาการแลคหรือโหลดนานระหว่างตอนเลย
มันมีเซิร์ฟเวอร์พิเศษตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะเชื่อมต่อคุณเข้าหาเซิร์ฟเวอร์ที่เร็วที่สุด ในขณะที่เซิร์ฟเวอร์เหล่านี้นั้นไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับแต่ละแพลตฟอร์มโดยเฉพาะเหมือนอย่าง CyberGhost แต่มันก็ทำให้เราเข้าถึง Hulu ในสหรัฐอเมริกา ได้อย่างมีความเสถียร มันมีอยู่ 1 เซิร์ฟเวอร์ในญี่ปุ่นเพื่อใช้เข้าถึง Hulu ญี่ปุ่นด้วย
Hotspot Shield เปิดให้คุณเชื่อมต่อได้ถึง 5 อุปกรณ์พร้อมกัน ดังนั้นคุณจึงสามารถติดตั้งและสตรีมได้บนหลายอุปกรณ์ของคุณ เราได้ติดตั้งเอาไว้บนแล็ปท็อป Windows แท็บเล็ต Android และ iPhone และเราก็ไม่ต้องลงชื่อออกจากแต่ละอุปกรณ์เลย เพื่อที่จะไปใช้งานกับอุปกรณ์อื่น ๆ
ข้อเสียเดียวก็คือ Hotspot Shield นั้นมีความเข้ากันได้กับอุปกรณ์ไม่ค่อยดีนัก อย่างไรก็ตาม มันสามารถใช้งานเข้ากันได้กับเราเตอร์ ดังนั้นคุณสามารถทำให้อุปกรณ์อย่างสมาร์ททีวีและเครื่องเล่นเกมใช้งาน VPN ผ่านทางนั้นได้ นี่หมายความว่าคุณสามารถผ่านข้อจำกัดการเชื่อมต่อพร้อมกัน 5 การเชื่อมต่อได้ เนื่องจากเราเตอร์นั้นนับเป็นแค่ 1 การเชื่อมต่อ
แพลนของ Hotspot Shield นั้นมีราคาเริ่มต้นเพียง $2.99/เดือน เมื่อคุณสมัครใช้งานแพลนระยะยาว มันมีแพลนระดับฟรีให้ใช้ด้วย แต่มันจะเปิดให้คุณเชื่อมต่อได้แค่ 1 การเชื่อมต่อ และก็จำกัดอุปกรณ์ที่ใช้งานได้ รวมถึงไม่มีโหมดสำหรับสตรีมมิ่ง
คุณสามารถ ทดลองใช้ Hotspot Shield ได้อย่างไม่มีความเสี่ยง เนื่องจากมันมีการรับประกันคืนเงินถึง 45 วัน เราอยากตรวจสอบให้แน่ใจว่าเรื่องนี้นั้นเชื่อถือได้ ดังนั้นเราจึงขอคืนเงินโดยการติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าผ่านทางแชท หลังจากที่ตอบคำถามง่าย ๆ ไม่กี่ข้อแล้ว เราก็ได้รับเงินคืนเข้าบัญชีภายในไม่ถึงสัปดาห์
10. hide.me — มีแอปที่ใช้งานง่ายสำหรับดู Hulu ได้บนหลากหลายอุปกรณ์
- แอปสำหรับทุกอุปกรณ์ (เช่น Amazon Fire TV) เพื่อใช้ดู Hulu บนจอใหญ่ ๆ
- เซิร์ฟเวอร์พิเศษสำหรับสตรีมมิ่งเพื่อใช้ปลดบล็อก Hulu และแพลตฟอร์มอื่น ๆ ได้อย่างมีความเสถียร
- 2,300 เซิร์ฟเวอร์ใน 85 ประเทศ
- ใช้งานได้กับ: Hulu, Netflix, Disney+, Amazon Prime Video, HBO Max, BBC iPlayer และอื่น ๆ
- ใช้งานเข้ากันได้กับ Windows, macOS, iOS, Android, Linux และเราเตอร์
- แชทฝ่ายบริการลูกค้าได้ในภาษาไทย
นอกจากนี้ยังมีแอปเฉพาะสำหรับอุปกรณ์สำคัญ ๆ ทั้งหมด hide.me นั้นยังมีแอปสำหรับ Amazon Fire TV ซึ่ง VPN อื่น ๆ ไม่ค่อยมีอีกด้วย นี่ทำให้เราสามารถเข้าถึง Hulu ได้อย่างง่ายดายบนหน้าจอใหญ่ ตอนที่เราทำการทดสอบ hide.me เราใช้แล็ปท็อป Windows แท็บเล็ต Android และ iPhone และแอปทั้งหมดของพวกมันนั้นก็เปิดเข้าใช้งานง่ายมาก ๆ
มันยังมีเซิร์ฟเวอร์พิเศษสำหรับสตรีมมิ่งตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย แคนาดา และอื่น ๆ ด้วย เซิร์ฟเวอร์สตรีมมิ่งที่สหรัฐอเมริกาของมันนั้นสามารถปลดบล็อก Hulu ได้อย่างมีความเสถียร การค้นหาเซิร์ฟเวอร์เหล่านี้นั้นก็ง่ายมาก ๆ ด้วย ที่คุณต้องทำก็แค่ไปยังรายการ "Streaming (สตรีมมิ่ง)" และก็ค้นหาประเทศของบริการที่คุณต้องการจะปลดบล็อก มันจะเชื่อมต่อคุณไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่เร็วที่สุดโดยอัตโนมัติ
เซิร์ฟเวอร์สำหรับสตรีมมิ่งนั้นยังมีความเร็วสูงด้วย ความเร็วของเราอยู่ที่ 55.68 Mbps ตอนที่เราใช้เซิร์ฟเวอร์สตรีมมิ่งในสหรัฐอเมริกา นั่นก็เป็นความเร็วที่ตกลง 23% จากความเร็วฐานของเรา แต่มันก็เร็วพอที่สตรีมในความชัดระดับ HD
ข้อเสียของ hide.me ก็คือ แพลนระยะสั้นของมันนั้นค่อนข้างแพง อย่างไรก็ตาม คุณสามารถ รับบริการได้ในราคาเพียง $2.88/เดือน ด้วยการสมัครใช้งานแพลนระยะยาว แถมตอนนี้มันยังมีลดราคา 72% อีกด้วย มันมีแพลนระดับฟรีให้ใช้ด้วย แต่นี่จะไม่รองรับการสตรีมมิ่ง — เราลองแล้วมันใช้งานกับ Hulu ไม่ได้เลย
คุณสามารถทดลองใช้งาน hide.me ได้อย่างไม่มีความเสี่ยงเนื่องจากมันมีการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน เราได้ทำการทดสอบเรื่องนี้ดูแล้วว่าเชื่อถือได้จริง โดยเราได้ติดต่อฝ่ายให้บริการ ลูกค้า 24/7 และก็ขอคืนเงิน กระบวนการนี้ใช้เวลาแค่ 5 นาทีและเราก็แค่ต้องบอกตัวแทนเกี่ยวกับเหตุผลที่เราขอยกเลิก หลังจากนั้นเราก็ได้รับเงินคืนเข้าบัญชีภายในเวลา 5 วัน
ตารางเปรียบเทียบอย่างเร็ว: ฟีเจอร์ของ Hulu VPN
ข้างล่างนี้เป็นตารางเปรียบเทียบฟีเจอร์ของ Hulu VPN ทั้งหมดในรายการนี้ ตรงนี้คุณจะสามารถดูราคาที่ถูกที่สุดของแต่ละ VPN และมันสามารถเชื่อมต่อได้กี่อุปกรณ์ในเวลาเดียวกัน รวมถึงความเร็วเฉลี่ยตอนที่เราทดสอบ
เรายังใส่เรื่องเซิร์ฟเวอร์พิเศษสำหรับสตรีมมิ่ง ซึ่งจะช่วยเพิ่มความเร็วในการสตรีมมิ่งและบางครั้งก็จะช่วยปลดบล็อกแพลตฟอร์มเฉพาะอย่าง Hulu ด้วย Smart DNS นั้นก็เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ดี ๆ ที่จะทำให้คุณสามารถปลดบล็อก Hulu ได้บนอุปกรณ์ที่ปกติแล้วจะไม่รองรับ VPN อย่างเช่นเครื่องเล่นเกม อุปกรณ์สตรีมมิ่งบางตัว และสมาร์ททีวี
ทดลองใช้ ExpressVPN อย่างไม่มีความเสี่ยง
เคล็ดลับในการเลือก VPN สำหรับ Hulu ที่ดีที่สุด
VPN นั้นมีให้เลือกเป็นร้อย แต่มีแค่ไม่กี่ตัวที่สามารถใช้งานกับ Hulu ได้จริง ดังนั้นการรู้ว่าต้องมองหาฟีเจอร์ใดก็จะช่วยให้คุณเลือกได้ถูกตัว นี่คือเกณฑ์ที่เราใช้ในการเลือก VPN ที่ดีที่สุดสำหรับ Hulu
- ความเร็วสูง — สิ่งสำคัญที่สุดคือความเร็วในการโหลดและเล่นเนื้อหาบน Hulu เพื่อให้สามารถสตรีมมิ่งในความชัดระดับ HD ได้ คุณต้องมีความเร็วอย่างน้อย 5 Mbps เราใช้เครื่องมือวัดความเร็วออนไลน์เพื่อให้แน่ใจว่า VPN ทั้งหมดในรายการนี้ผ่านเกณฑ์
- เครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่ — VPN ของคุณนั้นควรที่จะมีเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ในสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นขนาดใหญ่ ขึ้นกับว่าคุณต้องการเข้าดูเนื้อหาของประเทศใด นี่จะช่วยให้คุณมั่นใจว่าคุณสามารถเข้าถึงการเชื่อมต่อความเร็วสูงได้ตลอดเวลา เราได้ตรวจสอบดูแล้วว่า VPN ที่เราแนะนำนั้นมีเครือข่ายในสหรัฐอเมริกาขนาดใหญ่ และก็มีอย่างน้อย 1 แห่งในญี่ปุ่น
- ความสามารถในการปลดบล็อกที่มีความเสถียร — VPN สำหรับ Hulu ที่ดีที่สุดนั้นควรจะหลบหลีกการบล็อกภูมิภาคได้อย่างมีความเสถียร เราได้ทำการทดสอบ VPN ทั้งหมดในรายการนี้แล้ว เพื่อให้แน่ใจว่าเซิร์ฟเวอร์ในสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นของพวกเขานั้นสามารถปลดบล็อกแพลตฟอร์มได้อย่างมีความเสถียร
- การป้องกันการรั่วไหล — การเลือก VPN ที่มีการป้องกันการรั่วไหลจะป้องกันไม่ให้เกิดการรั่วไหลของ IPv6, DNS และ WebRTC การรั่วไหลของ IPv6 จะเปิดเผยที่อยู่ IP จริงของคุณ ซึ่งทำให้ Hulu ตรวจพบได้อย่างง่ายดายว่าคุณกำลังใช้ VPN และพวกเขาก็จะบล็อกคุณ ผู้ใช้งาน Windows จะมีความเสี่ยงเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นพิเศษ
- ความเข้ากันได้กับอุปกรณ์ — ตรวจสอบดูให้แน่ใจว่า VPN นั้นติดตั้งง่ายสำหรับอุปกรณ์ที่คุณใช้บ่อย ๆ เช่นโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ สมาร์ททีวี เครื่องเล่นเกม หรือเราเตอร์ เราตรวจสอบให้แน่ใจแล้วว่า VPN ทั้งหมดในรายการนี้นั้นมีแอปสำหรับระบบปฏิบัติการยอดนิยมส่วนใหญ่
- ฝ่ายบริการลูกค้าที่ไว้วางใจได้ — เราตรวจสอบให้แน่ใจแล้วว่า VPN ในรายการนี้นั้นมีฝ่ายบริการลูกค้าที่พึ่งพาได้ เพื่อความรวดเร็วในการตอบคำถามและแก้ปัญหาของคุณ จะดีที่สุดถ้าคุณเลือกใช้ VPN ที่มีฟีเจอร์ไลฟ์แชท 24/7 หรืออย่างน้อยก็ควรมีบริการลูกค้าที่ตอบสนองไวผ่านทางอีเมลหรือฟอร์มติดต่อ
- การรับประกันคืนเงินที่เชื่อถือได้ — การรับประกันคืนเงินจะทำให้คุณสามารถทดลองใช้ VPN กับ Hulu ได้อย่างไม่มีความเสี่ยง เราตรวจสอบแล้วว่า VPN ที่เราแนะนำทั้งหมดนั้นมีการรับประกันคืนเงินที่เชื่อถือได้ หรือไม่ก็มีให้ทดลองใช้ฟรี เพื่อที่ถ้าคุณไม่พอใจกับการใช้งาน คุณก็จะสามารถขอคืนเงินได้เต็มจำนวน
VPN เหล่านี้จะใช้งานกับ Hulu ไม่ได้
VPN บางรายที่เราทดสอบดูนั้นไม่สามารถใช้งานกับ Hulu ได้เลย นี่คือ VPN ที่เราไม่แนะนำถ้าคุณต้องการใช้งานกับ Hulu:
Buffered | BulletVPN | CactusVPN | Hola |
IronSocket | PureVPN | Unotelly | VPNLand |
Avast VPN | Kaspersky VPN | Ivacy |
คู่มือแบบเร็ว: วิธีปลดล็อก Hulu ใน 3 ขั้นตอนง่าย ๆ
- รับบริการจาก VPN เราแนะนำ ExpressVPN — มันสามารถเข้าถึง Hulu ได้อย่างมีความเสถียรและก็มีความเร็วสูงมาก ดังนั้นคุณจึงสามารถเพลิดเพลินกับเนื้อหาได้ในความชัดระดับ HD หรือ Ultra HD
- เชื่อมต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์ ยกตัวอย่างเช่น เลือกเซิร์ฟเวอร์ในสหรัฐอเมริกาเพื่อดูรายการในสหรัฐอเมริกาของ Hulu หรือเลือกเซิร์ฟเวอร์ในญี่ปุ่นเพื่อเข้าถึง Hulu ญี่ปุ่น
- เริ่มดู Hulu ได้เลย! ล็อกอินเข้าบัญชีของคุณและก็เพลิดเพลินกับการสตรีมมิ่งรายการและภาพยนตร์เรื่องโปรดของคุณ
คำถามพบบ่อยเกี่ยวกับ VPN Hulu ที่ดีที่สุด
ต้องทำอย่างไรถ้า VPN ของฉันใช้งานกับ Hulu ไม่ได้?
ก่อนอื่น คุณควรจะลองเปลี่ยนเซิร์ฟเวอร์ดู เป็นไปได้ว่า Hulu นั้นทำการขึ้นบัญชีดำ IP ที่คุณกำลังใช้ ดังนั้นให้ลองดูว่าอันอื่นสามารถใช้งานได้หรือไม่ เพราะแบบนี้ถึงเป็นเรื่องดีกว่าที่ คุณควรจะเลือก VPN ที่มีเซิร์ฟเวอร์อยู่ในสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นเยอะ ๆ (ขึ้นกับบัญชี Hulu ของคุณ) นี่จะทำให้คุณมีตัวเลือกในกรณีที่คุณเจอปัญหาการเชื่อมต่อที่ไม่สามารถผ่านการบล็อก "Hulu Error Code: P-EDU101” ได้
ถ้านี่ยังไม่ได้ผล คุณก็สามารถลองวิธีต่าง ๆ ต่อไปนี้:
- ล้างคุกกี้และแคช บางครั้งการเข้าถึง Hulu ผ่านเบราว์เซอร์ด้วย VPN นั้นก็อาจจะทำได้ง่ายกว่าแอป ถ้าคุณใช้เบราว์เซอร์ ให้เข้าไปในการตั้งค่าและล้างคุกกี้และข้อมูลแคช จากนั้นให้โหลด Hulu ใหม่อีกครั้ง คุณยังสามารถลองเปลี่ยนเบราว์เซอร์ดูได้ด้วย — ในอดีตนั้น วิธีนี้เคยใช้ได้ผลสำหรับเราอยู่หลายครั้ง
- ปิด IPv6 บนอุปกรณ์ของคุณ ถึงแม้ว่า VPN ในรายการนี้หลายตัวจะมีการป้องกันการรั่วไหลของ IPv6 แล้ว แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด บาง VPN นั้นสามารถปิดบังที่อยู่ IPv4 ของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่กลับปล่อย IPv6 เอาไว้ เพื่อที่จะปิดตรงนี้ ให้เข้าไปยังการตั้งค่าเครือข่ายและอินเทอร์เน็ตของอุปกรณ์หรือเบราว์เซอร์ของคุณ จากนั้นนำเครื่องหมายติ๊กออกจาก "Internet Protocol Version 6”
- ล้างแคช DNS ของคุณ เพื่อป้องกันไม่ให้คนเข้าถึงเว็บไซต์ที่ถูกจำกัดในพื้นที่ (อย่าง Hulu) บางประเทศจะมีการ scramble DNS ของคุณจาก ISP ขั้นตอนในการ "flush" DNS ของคุณจะแตกต่างกันออกไป ขึ้นกับอุปกรณ์ของคุณ แต่บน Windows 10 ของเรา เราแค่ต้องเปิด command prompt และก็พิมพ์ "ipconfig /flushdns" การ flushing DNS จะทำให้คอมพิวเตอร์ของคุณนั้นปรับเปลี่ยนไปใช้การตั้งค่า DNS ที่ถูกต้อง
- ปรับแต่งการตั้งค่า DNS/พร็อกซี่ ด้วยตนเอง คุณอาจจะต้องปรับการตั้งค่า DNS และพร็อกซี่บนอุปกรณ์ของคุณด้วยตนเอง ถ้าคอมพิวเตอร์ของคุณไม่ทำให้โดยอัตโนมัติ ในการจะทำเช่นนี้นั้น คุณมักจะสามารถเปิดดูคู่มือสอนแบบเป็นขั้นเป็นตอนได้บนเว็บไซต์ของ VPN หรือผ่านทางฝ่ายให้บริการลูกค้า
- ติดต่อฝ่ายให้บริการลูกค้าของ VPN ทางตัวแทนจะสามารถแนะนำเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้งานกับ Hulu ได้ดีที่สุดให้กับคุณ พวกเขาอาจจะมีวิธีแก้ปัญหาอื่น ๆ ให้คุณลองสำหรับ VPN นั้น ๆ ด้วย
ฉันจะสามารถแก้ข้อผิดพลาดตำแหน่งโฮมของ Hulu + Live TV ได้อย่างไร?
คุณสามารถแก้ปัญหาข้อผิดพลาดตำแหน่งบ้านได้ด้วยการใช้ VPN ที่มีที่อยู่ IP เฉพาะ นี่จะทำให้คุณสามารถใช้งานที่อยู่ IP เดิมในทุก ๆ ครั้งที่คุณเชื่อมต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์ แทนที่จะสุ่มที่อยู่ใหม่มาให้คุณ (ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของเซิร์ฟเวอร์ VPN ทั่วไป) CyberGhost และ Private Internet Access นั้นจะมีที่อยู่ IP เฉพาะ ให้คุณใช้บริการ
Hulu ใช้ "ตำแหน่งบ้าน” ในการบ่งชี้ว่าคุณจะได้ช่องการใช้บริการช่องไหน หลังจากที่ตำแหน่งถูกกำหนดแล้ว คุณก็จะได้รับบริการจากช่องต่าง ๆ (เช่นช่องข่าวในพื้นที่) ขึ้นกับที่อยู่ IP ที่คุณใช้สมัคร
คุณจะได้รับข้อความผิดพลาดดังต่อไปนี้ถ้าคุณพยายามเข้าถึง Hulu + Live TV จากที่อยู่ IP อื่น:
TRANSLATION: ดูเหมือนว่าคุณจะไม่ได้อยู่ที่บ้าน รหัสไปรษณีย์ปัจจุบันของคุณไม่ตรงกับตำแหน่งบ้านของคุณ ด้วยเหตุผลทางด้านลิขสิทธิ์ในการสตรีมมิ่ง คุณจึงไม่สามารถดูรายการผ่านอุปกรณ์นี้นอกเครือข่ายในบ้านของคุณได้"
นอกจากนี้ ถ้า Hulu ไม่สามารถระบุเครือข่ายของคุณได้ คุณใช้งานเครือข่ายแบบแชร์ หรือถ้า VPN ไม่สามารถใช้งานเข้ากันได้กับมัน — คุณก็อาจจะเจอข้อผิดพลาด "ตำแหน่งบ้าน" เช่นกัน Hulu ทำแบบนี้เพื่อป้องกันการแชร์บัญชี
คุณสามารถแก้ปัญหานี้ด้วยการอัปเดตเครือข่ายของคุณได้ด้วย Hulu เปิดให้คุณสามารถเปลี่ยนตำแหน่งบ้านของคุณได้ (รวมถึง IP ที่เกี่ยวข้อง) เป็นจำนวน 4 ครั้งต่อปี ดังนั้นถ้าคุณมีที่อยู่ IP เฉพาะกับ VPN ของคุณ คุณก็สามารถอัปเดตตำแหน่งบ้านของคุณด้วยที่อยู่ IP ใหม่ได้ จากนั้นคุณก็จะมีที่อยู่ IP เดิมสำหรับใช้เข้าถึง Hulu ได้ตลอด
ฉันสามารถใช้อุปกรณ์ไหนเพื่อทำการสตรีม Hulu กับ VPN ได้บ้าง?
Hulu นั้นรองรับอุปกรณ์ยุคปัจจุบันส่วนใหญ่ VPN ทั้งหมดในรายการนี้นั้นมีแอปสำหรับระบบต่าง ๆ เช่น Windows, macOS, Android, iOS และก็สามารถติดตั้งบนเราเตอร์ได้ด้วย การตั้งค่า VPN ให้ใช้งานบนเราเตอร์นั้นจะทำให้คุณสามารถใช้งานมันได้บนทุกอุปกรณ์ในเครือข่ายที่บ้านของคุณ แต่การตั้งค่านั้นก็ค่อนข้างจะซับซ้อน
ถ้าคุณต้องการจะดู Hulu บนเครื่องเล่นเกม อุปกรณ์สตรีมมิ่ง หรือสมาร์ททีวี คุณก็ควรจะเลือก VPN ที่มาพร้อมกับ Smart DNS ด้วยสิ่งนี้ คุณจะสามารถกำหนดค่า VPN ให้อุปกรณ์ที่ใช้งาน WiFi ได้ส่วนใหญ่นั้นใช้งานได้ เพียงแค่การใส่รหัสเข้าไปในการตั้งค่าเครือข่ายของมัน ตอนที่เราลองทดสอบดูกับ ExpressVPN เราก็ทำตามขั้นตอนง่าย ๆ จากเว็บไซต์ของมัน — ใช้เวลาแค่ไม่ถึง 5 นาที เราก็สามารถดู Hulu บนสมาร์ททีวีของเราได้แล้ว
อุปกรณ์ที่ Hulu รองรับได้แก่:
โทรศัพท์และแท็บเล็ต Android | Android TV (บางรุ่น) | Apple TV (รุ่น 4 หรือใหม่กว่า) | Chromecast | Echo Show | แท็บเล็ต Fire |
Fire TV และ FireStick | iPhones และ iPads | LG TV (บางรุ่น) | Nintendo Switch | เบราว์เซอร์และแอปของ Mac และ PC | PlayStation |
Roku (บางรุ่น) | Samsung TV (บางรุ่น) | VIZIO SmartCast TVs | Xbox | Xfinity Flex Streaming TV Box | Xfinity X1 TV Boxes |
ฉันสามารถสมัครใช้งาน Hulu จากนอกสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นได้หรือไม่?
ได้ คุณสามารถเข้าถึง Hulu ได้จาก สหราชอาณาจักร, แคนาดา, ออสเตรเลีย, เม็กซิโก หรือ ไทย แต่ คุณจะต้องใช้ VPN ถึงจะทำแบบนั้นได้ Hulu จำเป็นต้องใช้วิธีการชำระเงินของสหรัฐอเมริกาหรือญี่ปุ่น เช่นบัตรเครดิต/เดบิต หรือบัญชี PayPal ในประเทศ อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณไม่มีวิธีการชำระเงินแบบนั้น คุณก็สามารถชำระเงินด้วยบัตรของขวัญแบบพรีเพดได้ด้วย เราเห็นมันมีขายอยู่บน MyGiftCardSupply
หลังจากที่ซื้อบัตรของขวัญ Hulu แล้ว ก็ให้ทำการเชื่อมต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์สหรัฐอเมริกาหรือญี่ปุ่น จากนั้นก็เข้าเว็บไซต์ Hulu ทำตามขั้นตอนที่แสดงเพื่อสร้างบัญชีของคุณ และก็ใช้บัตรของขวัญพรีเพดเพื่อทำการชำระเงิน หลังจากนั้น คุณก็สามารถเริ่มสตรีมมิ่งรายการหรือภาพยนตร์บนบัญชี Hulu ใหม่ของคุณได้เลย
ในการจะดาวน์โหลดแอป คุณจะต้องเปลี่ยนตำแหน่งของ app store และก็สร้างบัญชีประเทศสหรัฐอเมริกาหรือญี่ปุ่นก่อน จากนั้นคุณจะสามารถดาวน์โหลดแอป Hulu บนอุปกรณ์ของคุณได้
ขอให้ทราบไว้ว่าการใช้ VPN เพื่อเข้าถึง Hulu ในประเทศที่มันไม่ได้เปิดให้บริการนั้นเป็นเรื่องที่ขัดแย้งกับข้อกำหนดและเงื่อนไขของมัน อย่างไรก็ตาม โอกาสที่คุณจะถูกแบนนั้นน้อยมาก เพราะว่า Hulu จะหาวิธีบล็อกซอฟต์แวร์ VPN มากกว่าที่จะมาบล็อกผู้ใช้งานที่จ่ายเงินพวกเขา
ในประเทศอย่างจีนและอิหร่าน VPN ที่ไม่ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลนั้นเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ดังนั้นการใช้งานมันเพื่อเข้าถึง Hulu จึงอาจเป็นเรื่องผิดกฎหมายได้ พวกเราไม่สนับสนุนให้คุณทำเรื่องผิดกฎหมาย ดังนั้นถ้าคุณอยากจะใช้ VPN เพื่อหลบหลีกการบล็อกภูมิภาค ขอให้คุณทำความเข้าใจกฎหมายและข้อกำหนดในประเทศของคุณให้ดีก่อน
VPN จะทำให้ความเร็วในการสตรีมมิ่งช้าลงหรือไม่?
เป็นเรื่องธรรมดาที่ VPN จะทำให้ความเร็วของการเชื่อมต่อนั้นช้าลงเล็กน้อย — จะช้าลงแค่ไหนนั้นขึ้นกับการเข้ารหัสและระยะห่างจากเซิร์ฟเวอร์ อย่างไรก็ตาม ความเร็วที่ตกลงไปนั้นแทบจะไม่มีนัยสำคัญ ถ้าคุณใช้ VPN ที่มีเซิร์ฟเวอร์ซึ่งมีความเร็วสูงมาก คุณต้องใช้ความเร็วแค่ 5 Mbps ในการสตรีมความชัดระดับ HD ดังนั้นเราจึงตรวจสอบให้แน่ใจแล้วว่า VPN ที่เราแนะนำนั้นสามารถรักษาระดับความเร็วได้อย่างน้อย 15 Mbps ถึงแม้ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อที่อยู่ห่างไกลก็ตาม
การใช้ VPN เพื่อดู Hulu นั้นถูกกฎหมายหรือไม่?
ส่วนใหญ่แล้วถูก — แต่ไม่ใช่ในทุกประเทศ ในหลาย ๆ ประเทศ คุณจะสามารถใช้ VPN เพื่อดู Hulu ได้ อย่างไม่ผิดกฎหมาย ซึ่งจะเป็นแบบนี้สำหรับประเทศที่ไม่ได้มีการสั่งห้ามใช้งาน VPN
อย่างไรก็ตาม การใช้ VPN กับ Hulu นั้นเป็นเรื่องที่ผิดข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้งานของ Hulu ถึงจะเป็นเช่นนั้นก็ตาม แต่ก็ยังไม่เคยมีใครรายงานว่า Hulu นั้นทำการแบนผู้สมัครสมาชิกเพราะพวกเขาใช้ VPN เนื่องจากท้ายสุดแล้ว VPN นั้นก็เป็นเครื่องมือสำหรับปกป้องความเป็นส่วนตัวออนไลน์ของคุณ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมบางเซิร์ฟเวอร์ของ VPN นั้นไม่สามารถใช้งานกับ Hulu ได้ — พวกเขาตรวจเจอว่านี่มันคือ IP ของ VPN และก็ทำการขึ้นบัญชีดำเอาไว้
นอกจากนี้การใช้ VPN นั้นก็เป็นเรื่องกฎหมายในบางประเทศที่มีการเซ็นเซอร์เนื้อหาอย่างรุนแรงที่ไม่สั่งห้ามก็จะมีข้อบังคับเกี่ยวกับ VPN มากมาย (เช่นจีนและอิหร่าน) เราไม่สนับสนุนให้คุณใช้ VPN อย่างผิดกฎหมาย ดังนั้นเราจึงขอแนะนำให้คุณตรวจดูกฎหมายในประเทศให้ดีก่อนเพื่อป้องกันไม่ให้คุณต้องเจอบทลงโทษในภายหลัง ถ้าคุณไม่แน่ใจ
ฉันสามารถดู Hulu ด้วย VPN ฟรีได้หรือไม่?
อาจจะทำได้ แต่เราไม่แนะนำ การเลือกใช้ VPN พรีเมียมราคาไม่แพงที่มาพร้อมกับการรับประกันคืนเงินนั้นจะดีกว่า VPN ฟรี ส่วนใหญ่นั้นใช้งานกับ Hulu ไม่ค่อยจะได้เลย — แถมมันจะมีข้อจำกัดด้านข้อมูลและความเร็วเป็นอย่างมาก ทำให้แทบจะสตรีมมิ่งอะไรไม่ได้เลย
ที่แย่ไปกว่านั้น VPN ฟรีส่วนใหญ่นั้นไม่ปลอดภัยด้วย พวกมันมักจะทำเงินจากการเก็บข้อมูลของคุณและนำไปขายให้กับบุคคลที่สาม และก็นำโฆษณาที่น่ารำคาญมานำเสนอให้กับคุณ บางรายนั้นจะทำให้ผู้ใช้งานติดมัลแวร์ด้วยซ้ำ ไม่คุ้มค่ากับเวลาที่คุณจะต้องเสียไปแน่นอน เมื่อเทียบกับการเลือกใช้งาน VPN ที่เราแนะนำในรายการนี้ซึ่งมีให้ทดลองใช้ฟรี ไม่ก็มีการรับประกันคืนเงินที่เชื่อถือได้
รับบริการ VPN Hulu ที่ดีที่สุดวันนี้เลย!
VPN ส่วนใหญ่นั้นจะไม่สามารถผ่านการบล็อกภูมิภาคสุดหินของ Hulu ได้ ดังนั้นการจะตามหาบริการที่ใช่นั้นจึงเป็นเรื่องยาก อันที่ใช้งานได้บางรายก็ขาดความเสถียร และก็ช้าเป็นเต่า ทำให้แทบจะสตรีมอะไรดูไม่ได้เลย โชคยังดีที่ เราและทีมงานได้รวบรวมรายการ VPN Hulu ที่ดีที่สุด ซึ่งจะทำให้คุณสามารถเข้าถึงเว็บไซต์ได้อย่างรวดเร็วและมีความเสถียรมาไว้แล้ว
ที่เราชื่นชอบที่สุดก็คือ ExpressVPN เพราะมันมีความเร็วสูงที่สุด มีการเชื่อมต่อที่มีความเสถียร และก็สามารถปลดบล็อก Hulu ได้ในทุก ๆ ครั้ง คุณสามารถ ลองใช้ ExpressVPN กับ Hulu ได้อย่างไม่มีความเสี่ยง เนื่องจากมันมีการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน หากคุณลองใช้แล้วรู้สึกว่ามันไม่ใช่สำหรับคุณ คุณก็สามารถขอคืนเงินได้อย่างไม่มีปัญหา
สรุปแล้ว VPN Hulu ที่ดีที่สุด ใน 2023 ได้แก่...
ข้อมูลของคุณจะถูกเปิดเผยต่อเว็บไซต์ที่คุณเข้าชม!
หมายเลข IP ของคุณ:
ตำแหน่งของคุณ:
ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของคุณ:
ข้อมูลข้างต้นสามารถใช้เพื่อติดตาม กำหนดเป้าหมายโฆษณาและติดตามกิจกรรมที่คุณทำบนอินเตอร์เน็ตได้
VPN สามารถช่วยคุณซ่อนข้อมูลเหล่านี้จากเว็บไซต์ เพื่อให้คุณได้รับการปกป้องตลอดเวลา เราขอแนะนำ ExpressVPN - VPN อันดับ #1 จากผู้ให้บริการกว่า 350 รายที่เราได้ทดสอบ มีการเข้ารหัสระดับทหารและฟีเจอร์ความเป็นส่วนตัวมากมายที่จะช่วยให้คุณมั่นใจในความปลอดภัยเมื่อใช้งานอินเตอร์เน็ต - นอกจากนี้ยังมีส่วนลดจาก 49% อีกด้วย